career


6 เทรนด์การเรียนรู้ในอนาคต ของคนยุคดิจิตอล


“Knowledge Is Endless To Learn” การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นประโยคสุดคลาสสิคที่เราทุกคนคงเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก และแน่นอนว่ามันก็ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอ เพราะหากคนเราขาดการเรียนรู้ ชีวิตเราก็จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคดิจิตอล

ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปไวเกินกว่าที่เราจะจินตนาการถึง ถ้าคุณหยุดนิ่งอยู่กับที่ ก็อาจพบว่ามีคนมากมายแซงหน้าเราไปไกลแล้ว แล้วเราควรจะเรียนรู้อย่างไรให้พัฒนาตนเองได้มากที่สุดในยุคดิจิตอลกันล่ะ?


วันนี้เราขออาสาพาไปรู้จักกับ 6 เทรนด์การเรียนรู้ในอนาคตที่จะทำให้การเรียนรู้ของคุณไม่น่าเบื่อ จำเจอีกต่อไป!

1. เรียนจาก Video สื่อการเรียนรู้พื้นฐานที่ต้องมี

สื่อการเรียนรู้รูปแบบเดิมที่เป็นตัวอักษรหรือรูปภาพในหนังสือเรียนอาจดูไม่น่าสนใจสำหรับคนสมัยนี้มากเท่ากับภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอ ในยุคดิจิตอล ผู้คนจึงเริ่มเปลี่ยนจากการอ่านหนังสือมาเป็นการดู Video เพื่อเรียนรู้ด้วยตนเองแทนมากขึ้น ดังนั้น Video จึงกลายมาเป็นรูปแบบของเทรนด์การเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบายทุกที่ทุกเวลาไปแล้ว

2. Live Streaming เรียนกันแบบสด ๆ ไม่ง้อเทป

แม้ว่า Video จะทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นจากภาพเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่เพียงตัวหนังสือและภาพนิ่ง แต่จุดด้อยอย่างหนึ่งคือ การที่ผู้เรียนไม่สามารถโต้ตอบกับผู้สอนในขณะนั้นได้ ดังนั้นจึงมีการพัฒนารูปแบบการเรียนให้เป็นแบบ Live Streaming หรือการถ่ายทอดสดเพื่อสอน ทำให้ผู้เรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ตั้งคำถาม และโต้ตอบกับผู้สอนได้ในทันที โดยปัจจุบันหลายสถาบันการศึกษาเริ่มมีการ Live สอนสด บนแพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมอย่าง Youtube และ Facebook บ้างแล้ว

3. ฟัง Podcast อีกหนึ่งวิธีเรียนรู้สำหรับคนไม่มีเวลา

ในบางสถานการณ์ เราอาจไม่สะดวกที่จะเปิด Video หรือดู Live Streaming ได้ถนัดเช่น ขณะทำงาน หรือขับรถ แต่ถ้าคุณไม่อยากปล่อยเวลาขณะเดินทางให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ก็ควรลองเปิดฟัง Podcast เพื่อเปิดหูให้ได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันมี Podcast ให้เราได้เลือกฟังเพื่อเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เราสนใจได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคโนโลยี ด้านภาษา หรือการพัฒนาตนเอง

4. เรียนรู้โดยใช้ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ทั่วโลกให้ความสนใจและได้รับการพัฒนามากที่สุดในยุคนี้ โดยมีการนำมาใช้เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้คนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการเรียนภาษาต่างประเทศเช่น แชทบอทเรียนภาษาที่ดังที่สุดอย่าง Duolingo ที่มีภาษาต่างประเทศให้เลือกเรียนมากกว่า 30 ภาษา และ Vonder แชทบอทสัญชาติไทยที่จะทำให้การฝึกภาษาอังกฤษของคุณเป็นเรื่องง่ายและสนุกกว่าที่เคย ถ้าใครอยากรู้ว่าเจ้าแชทบอท 2 ตัวนี้จะฉลาดและน่ารักขนาดไหน ลองแวะเข้าไปเล่นได้เลย
Duolingo: https://www.duolingo.com/
Vonder: https://www.vonder.co.th/

5. Online Course บนมือถือ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา

แน่นอนว่าคงจะดีถ้าเราสามารถเรียนรู้ได้จากมือถือ ที่เราพกติดตัวตลอดเวลาจนแทบจะเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้ทุกสาขาวิชาที่สนใจได้ง่าย ๆ ผ่านคอร์สออนไลน์ที่มีให้เลือกจากหลากหลายเว็บ เช่น Coursera และ Udemy ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รองรับการเรียนบนมือถือ ทำให้เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบายตามใจคุณ
นอกจากนี้ การเรียนรู้จากพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์อย่างหน้า Facebook page, Facebook group และ LINE OpenChat ก็ถือเป็นอีกช่องทางการเรียนรู้ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ แชร์ความคิดเห็นของคนในคอมมูนิตี้ไปมาได้ด้วย


6. เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี AR และ VR

แม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี AR และ VR ในแง่ของความบันเทิง เช่น การเล่นเกมเสมือนจริงอย่าง Pokemon Go ที่นำ AR เข้ามาใช้ในเกม ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินและได้อรรถรสในการเล่นมากขึ้น แต่ในตอนนี้ก็เริ่มมีการนำเทคโนโลยี AR และ VR เข้า มาใช้ในการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน เช่น สวมแว่นตา VR เพื่อเรียนภาษาต่างประเทศแบบเสมือนว่าอยู่ในสถานการณ์จริง ซึ่งถือเป็นการช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้แบบจำลอง (Simulation) ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

เห็นไหมคะว่า การเรียนรู้ในยุคนี้มีหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพในการเรียนของคุณให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นได้ ดังนั้นหากไม่อยากตกขบวนตามไม่ทันคนอื่น ก็ต้องหาวิธีเรียนรู้ในแบบที่ใช่ และหมั่นฝึกฝน อัพสกิล เพิ่มเลเวลให้ตัวเองเสมอ ๆ นะคะ