ผลวิจัยของ Dr. David McClelland นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Harvard บ่งชี้ว่า คนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด มีผลต่อความสำเร็จในชีวิต เพราะสิ่งที่เราได้พูดคุยกับคนรอบข้างอาจก่อให้เกิดความคิดที่คล้ายคลึงกัน และส่งผลต่อพฤติกรรมของเราด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราคบหาเพื่อนที่มองโลกในแง่ลบ ทุกอย่างจะถูกย้อมไปด้วยสีแห่งความสิ้นหวัง และเป็นไปได้ยากที่เราจะมองโลกในแง่บวก

ลองถามตัวเองว่า คนที่เราชื่นชมในความสามารถ กับคนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด ใช่คนกลุ่มเดียวกันหรือเปล่า เพราะการรายล้อมตัวเองไปด้วยคนเก่ง ๆ จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากเราจะได้มุมมองใหม่ ๆ หรือแนวทางไปสู่ความสำเร็จในแบบที่พวกเขาเป็น ทั้งวิธีคิดและตัดสินใจ วิธีรับมือกับปัญหา ไปจนถึงพลังบวก และแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง

ยิ่งเราพบเจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือคนที่คอยตั้งข้อสงสัยในตัวเรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้เราสามารถผลักดันตัวเองได้มากเท่านั้น การน้อมรับในความผิดพลาดและนำมาปรับปรุงแก้ไขในการทำงานครั้งต่อไป ถือเป็นการก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเอง ซึ่งจะเป็นบันไดที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ คนที่คอยชี้ให้เห็นจุดบกพร่องของเรานั้นจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถพัฒนาตัวเองภายใต้แรงกดดันจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นได้ บางคนอาจแปรเปลี่ยนถ้อยคำตำหนิเหล่านั้นเป็นแผลลึกในใจ จนกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายมากกว่าผลักดันเราให้ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงควรแยกแยะเจตนาของผู้วิจารณ์ให้ออกก่อนที่มันจะสร้างรอยด่างพร้อยในจิตใจ

นอกจากคนรอบตัวแล้ว การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมก็ช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตได้เช่นกัน หากสังคมที่อยู่ไม่เอื้อต่อการเพิ่มศักยภาพในตนเอง ก็ต้องกล้าเดินออกมาหาสังคมใหม่ที่ดีกว่า เพราะหากเรายังคงแวดล้อมตัวเองไปด้วยกลุ่มคนที่ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบ เอาแต่ติเพื่อความสนุกแทนที่จะติเพื่อก่อ เราก็จะจมอยู่กับความผิดพลาดและไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่การไม่กล้าเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่เวิร์คนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า ดังนั้นอย่าลืมถามตัวเองว่าจริง ๆ แล้วเราต้องการเป็นคนเช่นไร ต้องการใช้ชีวิตแบบไหน แล้วพาตัวเองไปอยู่ในสังคมเช่นนั้น

จะเห็นได้ว่า คนที่อยู่รอบตัวมีอิทธิพลต่อชีวิตเราเป็นอย่างมาก หากได้ใช้เวลาอยู่กับกลุ่มคนที่เก่งและสร้างแรงจูงใจได้ดี ก็จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

_________________________

อ้างอิงจาก

https://maartenvandoorn.medium.com/you-are-the-average-of-the-five-people-you-spend-the-most-time-with-a2ea32d08c72

https://www.businessinsider.com/jim-rohn-youre-the-average-of-the-five-people-you-spend-the-most-time-with-2012-7