การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ บางครั้งหลายคนอาจกลัวว่า หากตัวเองได้ทำงานไปสักพักแล้วไม่ถูกใจอะไร ตัวพวกเขาเองคงไม่มีอำนาจมากพอที่ไปแจ้งใครหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่สำหรับ SCB เรามีการทำแบบสอบถามความพึงพอใจ และขอคำแนะนำในเรื่องต่างๆ จากพนักงานอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพราะเราเชื่อว่า หากพนักงานได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่พวกเขามีความสุข ผลลัพธ์ของงานก็จะออกมาดี และทำให้พนักงานสามารถส่งพลังงานบวกต่อให้แก่ลูกค้าผ่านการบริการที่ดีได้
เพื่อเป็นการปรับตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีโรคระบาดโควิดอย่างแพร่หลาย ทางธนาคารฯ จึงได้ตัดสินใจออกนโยบาย Work From Anywhere (WFA) ออกมาเพื่อเป็นการช่วยป้องการการรับเชื้อของพนักงานที่ต้องเดินทางมาทำงานที่สำนักงาน และแม้ว่า การทำงานลักษณะใหม่จะทำให้พนักงานแต่ละคนต้องไกลกัน แต่ทางธนาคารฯ ก็ยังคงใส่ใจเรื่องสุขภาพกาย และสุขภาพใจของพนักงานอยู่ไม่เคยเปลี่ยน โดยได้มีการจัดกิจกรรม SCB We Share ซึ่งเป็นกิจกรรมออนไลน์ที่จะให้พนักงานได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ และพบปะซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ ด้วยความที่การทำงานรูปแบบใหม่เป็นการทำงานแบบออนไลน์เป็นหลัก ทำให้การเวลาเข้า-ออกงานนั้นหายไป แต่นั่นทำให้สไตล์การทำงานของเราต้องมีการสร้างความเชื่อใจกันมากขึ้น โดยเราจะให้อิสระแก่พนักงานในการจัดสรรเวลาทำงานของตัวเอง และจะคอยทำการ follow-up อยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือหากพวกเขาพบเจออุปสรรคใดๆ ในการทำงาน ซึ่งผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า พนักงานหลายคนถูกใจการทำงานรูปแบบใหม่ และมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น!
เพราะแค่ความสุขอาจไม่พอ! พนักงานหลายคนอาจต้องการค้นหาตัวตนในองค์กรใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากความสามารถ ดังนั้นการสร้างคุณค่า และทำให้พนักงานรู้สึกมีตัวตนในองค์กรก็เป็นอีกเรื่องที่เราไม่เคยมองข้าม โดยทางธนาคารฯ ได้มีการทำ Employee Recognition ไม่ว่าจะเป็นการให้คำชื่นชมแก่พนักงานเมื่อพวกเขาทำงานได้ดี, การให้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น, การให้รางวัลในพิธีแสดงความยินดี หรือการให้ความไว้วางใจพวกเขาให้ทำงานที่สร้างคุณค่าแก่องค์กรในระดับที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งการที่ทางธนาคารฯ จะสามารถทำ Employee Recognition ให้สำเร็จได้นั้นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายด้วยกัน ทั้งจากทางฝ่ายบุคคลเองไปจนถึงหัวหน้าทีมแต่ละทีมที่จะช่วยทำให้พนักงานทุกคนได้รับการมองเห็นอย่างทั่วถึง
นอกจากการทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง และผลงานที่ตัวเองสร้างแล้ว พนักงานทุกคนจะต้องดำเนินชีวิตอยู่ในองค์กรด้วยความรู้สึกว่า หากเกิดปัญหาหรือข้อขัดแย้งใดๆ ขึ้นระหว่างตัวเขา และทางองค์กร พวกเขาจะมีคนที่จะเป็นกลางเพื่อรับฟัง และเข้าใจพวกเขา ซึ่งทางธนาคารฯ ก็ได้มีการจัดตั้งทีมแรงงานสัมพันธ์ขึ้นเพื่อเป็นตัวกลางในการช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง เป็นบุคคลที่จะช่วยไกล่เกลี่ย และหาจุดตรงกลางระหว่างสองฝ่ายที่มีความต้องการที่ต่างกันให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ การมีตำแหน่งนี้ในองค์กรยังจะช่วยให้ลูกจ้างไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในช่วงที่ปัญหาพุ่งเข้าใส่อีกด้วย
แน่นอนว่า เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ บางครั้งพนักงานอาจต้องกลับไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการต่างๆ ที่พวกเขาควรได้รับ ซึ่งหากพนักงานเกิดข้อสงสัยเหล่านี้หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ พวกเขาสามารถทำการติดต่อทีม People Contact Center เพื่อขอความช่วยเหลือได้เสมอ อย่างในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทางทีม People Contact Center ของเราก็ได้ทำงานกันอย่างหนักหน่วงเพราะมีพนักงานจำนวนมากสอบถามเข้ามาถึงเรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหรือวิธีการกรอกข้อมูลเอกสารลงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่พนักงานบางคนอาจไม่ชำนาญมากนัก ดังนั้นพนักงานทีม People Contact Center จึงเปรียบเสมือนที่พึ่งพิงทางใจในยามที่พวกเขาเดือดร้อน และไม่รู้สึกเดียวดายเมื่อพบเจอปัญหาใดๆ
บางครั้งเพียงการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอาจไม่เพียงพอ เพราะบางครั้งพนักงานอาจมีอาการเจ็บป่วยหรือต้องการการดูแลที่ใกล้ชิด โดยพวกเขาก็สามารถเดินทางเข้ามาพึ่งพิงทีม Employee Well Being เพื่อให้พนักงานในทีมนี้ช่วยดูแลเรื่องสุขภาพอย่างใกล้ชิด ซึ่งนอกจากอาการเจ็บป่วยทั่วไปแล้ว ในช่วงที่สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทีม Employee Well Being ก็ได้มีการลงพื้นที่เพื่อช่วยดูแลเรื่องการจัดหาวัคซีน การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้แก่พนักงาน การคัดกรองหากลุ่มผู้เสี่ยงติดเชื้อ การจัดหาสถานที่สำหรับกักตัว และการติดตามอาการของพนักงานแต่ละคนอีกด้วย
การดูแลเบื้องต้นคือหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อใดที่อาการเกิดความรุนแรงมากขึ้นจนพนักงานมีความต้องการที่จะเบิกค่ารักษาพยาบาล และสวัสดิการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล พวกเขาก็สามารถทำการติตต่อทางทีม People Service Management ได้เลย โดยทางทีมนี้ก็ยังให้บริการอื่นๆ อีกด้วย เช่น การรับสายพนักงานที่โทรเข้ามาปรึกษาเรื่องการเบิกจ่าย การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และการประสานงานกับโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อติดตามข้อมูลการเบิกจ่าย เป็นต้น ทั้งนี้ การเบิกค่ารักษาพยาบาลนั้นไม่ได้มีให้เพียงแค่พนักงานปัจจุบันเท่านั้น เพราะพนักงานที่เกษียณไปแล้วก็ยังสามารถได้รับสิทธินั้นเช่นกัน
ชีวิตคนเรามีจุดเริ่มต้นก็ย่อมมีจุดสิ้นสุดเป็นธรรมดา ซึ่งจุดสิ้นสุดในที่นี้คือวัยเกษียณ หลายคนอาจคิดว่า เมื่อชีวิตการทำงานจบ สายใยที่เชื่อมพวกเขาไว้กับองค์กรจะถูกตัดขาดไปโดยปริยาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ SCB เรามีการช่วยเหลือพนักงานตั้งแต่การเตรียมความพร้อมในวันที่พวกเขากำลังจะเกษียณผ่านการให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับหลังเกษียณ การจัดพิธีมอบเหรียญรางวัลแสดงความยินดี และขอบคุณพนักงานตลอดเส้นทางการทำงานที่ผ่านมา และยังมีการติดต่อพนักงานหลังจากที่พวกเขาก้าวออกไปอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย โดยหากทางธนาคารฯ มีจัดกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ และเหมาะกับพวกเขา ทางทีม Engagement and Well-being ก็จะคอยเป็นตัวแทนในการเชิญชวนให้เหล่าพนักงานเกษียณกลับมาเข้าร่วมอยู่เสมอ
จะเห็นได้ว่า ตลอดเส้นทางการทำงานของพนักงาน ทางธนาคารฯ ได้มีการให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กหรือใหญ่เท่าใด เพราะเราอยากให้พนักงานได้รู้สึกว่า ทุกตำแหน่งทุกหน้าที่ที่แต่ละคนทำนั้นได้มีส่วนช่วยพัฒนาองค์กรได้มากกว่าที่พวกเขาคิด และด้วยความที่ทางธนาคารฯ ยังอยากให้พนักงานเหล่านี้ได้มีประสบการณ์ทำงานที่ดี และเต็มไปด้วยความสุขในทุกวันทำงาน เราจึงจัดสรรทีม People ที่ได้เข้ามาดูแลพนักงานทุกคนตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาก้าวเข้ามาโดยที่พวกเขาอาจไม่รู้ตัว
สุดท้ายนี้ เพราะ SCB จะไม่เป็นเพียงสถานที่ทำงาน แต่เราจะอยู่ร่วมกัน และคอยช่วยเหลือกันดั่งครอบครัว เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อใจให้แก่พนักงานทุกคน โดยไม่ว่า แต่ละวันนั้นจะเป็นวันที่ดีหรือวันที่ร้าย พนักงานทุกคนจะยังสามารถมองหันกลับหลังมา และจะยังเจอเราคอยดูแลอยู่ไม่ห่างอยู่เสมอ