แต่สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟก็มีอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้ตาสว่างพร้อมลุยงานได้ดีเช่นกัน นั่นก็คือ “มัทฉะ” นั่นเอง

แล้วระหว่างกาแฟกับมัทฉะ แก้วไหนให้พลังงานสูงกว่า กระตุ้นให้เราตื่นตัวได้ดีกว่ากัน?

มาเริ่มที่ กาแฟ เมนูขวัญใจวัยทำงานทุกเพศทุกวัยกันก่อน เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่ามีคาเฟอีนสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ ในกาแฟหนึ่งแก้วจะมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 90 มิลลิกรัมซึ่งสูงมาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซับและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยกาแฟไม่ได้มีข้อดีเพียงแค่ทำให้เราตื่น แต่ยังช่วยให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนทำให้เลือดสูบฉีด รู้สึกมีแรงมากขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ และช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการดื่มกาแฟคือ หลังอาหารเช้า เพราะกาแฟจะไปเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย จึงไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง อีกทั้งยังเป็นเวลาที่ดีในการทำให้ตื่น แต่ก็ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน เนื่องจากร่างกายไม่ควรรับคาเฟอีนมากกว่า 300-400 มิลลิกรัมต่อวัน หากได้รับเป็นจำนวนมากจะทำให้ร่างกายขาดการพักผ่อน และเสี่ยงต่อภาวะติดคาเฟอีนได้ ซึ่งเมื่อติดแล้วถ้าไม่ได้รับคาเฟอีนจะทำให้มีอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา

ในขณะที่เครื่องดื่มขวัญใจวัยรุ่นอย่าง มัทฉะ ก็มีดีในแง่ของการให้พลังงานได้ไม่แพ้กัน โดยมัทฉะจะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 45 มิลลิกรัมต่อแก้ว ซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญภายในร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ และลดความเครียดได้ดี แม้มัทฉะจะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่ากาแฟอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่การดื่มมัทฉะมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อกระดูก ทำให้กระดูกพรุนได้เช่นกัน

ด้วยความที่กาแฟมีคุณสมบัติในการดูดซึมที่เร็วกว่า จึงสามารถกระตุ้นร่างกายได้เร็วกว่า แต่อยู่ได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้คนที่ดื่มกาแฟต้องดื่มหลายแก้วต่อวันเพื่อกระตุ้นตลอดเวลา ซึ่งตรงกันข้ามกับมัทฉะที่มีคาเฟอีนน้อยกว่า จึงใช้ระยะเวลาในการดูดซึมเข้าร่างกายนานกว่า ทำให้กระตุ้นร่างกายได้ยาวกว่า โดยเฉลี่ยประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อการดื่มหนึ่งแก้ว อีกทั้งยังช่วยถอนคาเฟอีนผู้ที่ติดกาแฟได้ เพราะร่างกายใช้เวลาดูดซึมคาเฟอีนค่อนข้างนานนั่นเอง

มาถึงตรงนี้ คงรู้แล้วว่าทั้งกาแฟและมัทฉะต่างบูสต์พลังงานให้เราได้เหมือนกัน แต่มีรูปแบบการกระตุ้นทำให้ตื่นตัวไม่เหมือนกัน ถ้าอยากตื่นเต็มตาแบบเห็นผลเร็วเพื่อปิดงานด่วน ขอแนะนำให้ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนจำนวนมากทำให้ตื่นตัวเร็ว แต่จะอยู่ได้ไม่นานเต็มที่คือ 3 ชั่วโมง แต่หากรู้ตัวว่าคืนนี้มีงานที่ต้องสะสางอีกหลายกอง คงต้องนั่งทำงานโต้รุ่งกันไปเลย การดื่มมัทฉะก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แม้กระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวได้ช้ากว่า แต่ออกฤทธิ์อยู่ได้นานกว่ามากถึง 6 ชั่วโมงเลยนั่นเอง

จะกาแฟหรือมัทฉะต่างก็มีดีในแบบของตัวเอง ลองเลือกดื่มให้ถูกสถานการณ์ เพื่อสุขภาพที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละวันให้เต็มร้อยพร้อมลุยเต็มที่กันไปเลย!