แถมไม่รู้ว่าอ่านไปแล้วได้อะไรอีกต่างหาก!
ถ้าใครเจอปัญหานี้อยู่ ลองมาดูวิธีการอ่าน fund fact sheet แบบ step by step ที่จะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลสำคัญแบบตรงจุดเน้น ๆ ไม่อ้อมค้อม จะได้รู้ว่ากองทุนนี้น่าสนใจและเหมาะกับสไตล์การลงทุนของเราจริง ๆ หรือไม่
ให้ดูที่หน้าแรกด้านมุมขวาบน
เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ
เป็นแบบ Active management หรือ Passive management โดยความแตกต่างของทั้งสองแบบคือ การลงทุนแบบ Active จะเอาชนะดัชนีชี้วัด (Benchmark) ในขณะที่การลงทุนแบบ Passive จะเคลื่อนไหวใกล้ดัชนีชี้วัด
เพื่อย้ำให้แน่ใจอีกรอบว่ากองทุนนี้เหมาะกับเราหรือไม่
โดยปกติจะมีการจัดอันดับตั้งแต่ระดับความเสี่ยงต่ำ (หมายเลข 1) ไปยังระดับความเสี่ยงสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ (หมายเลข 8) ถ้านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่หมายเลขไหนได้แสดงว่า สามารถเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงหมายเลขเท่ากันหรือต่ำกว่าได้ แต่หากต้องการเลือกหมายเลขที่มีความเสี่ยงสูงกว่าระดับที่ตัวเองรับได้ นั่นหมายถึงเรากำลังลงทุนในสิ่งที่เสี่ยงเกินไป ควรต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
ซึ่งแสดงความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ หรือค่า SD (Standard Deviation) จากค่าต่ำ (น้อยกว่า 5%) ไปจนถึงสูง (มากกว่า 25%) เป็นตัวบ่งบอกช่วงราคาที่สามารถขึ้นลงได้ว่าอยู่ที่ประมาณกี่ % และหุ้นที่อยู่ในกองทุนนี้เป็นแบบไหน มีความเสี่ยงต่ำหรือสูง โดยความเสี่ยงในการกระจุกตัว มีตั้งแต่ระดับต่ำ (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10%) ไปจนถึงสูง (มากกว่า 80%)
กองทุนนี้ประกอบไปด้วยอุตสาหกรรมอะไรบ้าง ในสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ โดยในเอกสารจะมีบอกหุ้นที่กองทุนนี้ไปลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรกจากสัดส่วนการลงทุนทั้งหมดให้อีกด้วย
ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ให้ดูผลการดำเนินงานเทียบกับ Benchmark ที่แสดงผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี โดยผลตอบแทนที่ได้ขึ้นอยู่กับกองทุนว่าเป็นแบบ Active หรือ Passive ตามที่ได้บอกไปในส่วนที่สอง แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ ในกรณีของกองทุนแบบ Passive คนจะคิดว่าตัวเลขต้องตรงดัชนี แต่ที่จริงแล้วมันจะลดหลั่นกันไป เนื่องจากมีการคิดค่าธรรมเนียมด้วย ทำให้ผลตอบแทนออกมาไม่เท่ากัน
ซึ่งช่วยบอกรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราควรรู้อาทิ วัน เวลาเปิดปิด ช่องทางการซื้อขาย มูลค่าการซื้อขายครั้งแรก และขั้นต่ำในการซื้อขายครั้งต่อไป โดยต้องดูส่วนนี้ให้สอดคล้องกับเงินลงทุนที่ตัวเองมีด้วย
แม้ว่าตอนแรกมันอาจจะยาก หรือใช้เวลาทำความเข้าใจนานหน่อย แต่ถ้าเรามีความตั้งใจ หมั่นศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ อีกไม่นานเราก็จะคล่องไปเอง สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องไม่ท้อและฝึกอ่านข้อมูลใน Fund fact sheet บ่อย ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะเจอเส้นทางการลงทุนที่ใช่สำหรับตัวเองได้ในที่สุด