career


SCB Academy - 3 ปีแห่งความสำเร็จเพื่อการเรียนรู้ กับบรรยากาศสุดคูล! ของชาว SCB


มาทำความรู้จักกับ SCB Academy ผ่านผู้นำขององค์กร คุณวรวัจน์ สุวคนธ์ (พี่บิ๊ค) รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงาน SCB Academy

เล่าถึง Purpose ของพี่บิ๊ค รวมถึง Mindset แบบไหนที่สำคัญต่อการเรียนรู้ของคน

ผมเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด ดังนั้น Mindset ที่สำคัญคือต้องเชื่อว่าตัวเขาเองยังพัฒนาต่อไปได้ หากคนเราเชื่อว่าเค้ายังมีศักยภาพที่จะนำความสามารถจากตัวเราเองและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อเขาได้เจอสิ่งใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ เขาจะพร้อมที่จะลงไปลุยกับมัน ไปเรียนรู้และนำมันขึ้นมาใช้เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป

เล่าถึงแนวคิดและจุดประสงค์ในการจัดตั้ง SCB Academy

SCB Academy ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาตอนที่ธนาคารเริ่มทำ Digital Transformation เพราะผู้บริหารธนาคารเชื่อว่ามันจะกระทบกับคนในองค์กรเป็นอย่างมากเพราะงานบางส่วนจะหายไป และกระทบกับอาชีพของคนในองค์กรแน่นอน เราจึงคิดว่าเราต้องดูแลเรื่องการ Reskill – Upskill ให้กับพนักงาน เพื่อให้พวกเขามีทักษะและความรู้ใหม่ ๆ เพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนสายงานไปทำงานอื่นภายในองค์กรได้ เพราะการที่องค์กรจะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนนั้น พนักงานจะต้องมีทักษะ ความรู้และวิถีการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในปัจจุบัน

อยากให้แชร์ประสบการณ์ตอนเริ่มต้นของ SCB Academy และที่ผ่านมาอะไรคือ Key Success Factor และอุปสรรค

เราเริ่มต้นในตอนแรกด้วยการเอาหน่วยงานเดิมที่เป็น Learning & Development ขององค์กรเป็นตัวตั้งต้นแล้วจึงต่อยอดเพื่อสร้าง Know how ใหม่ ๆ ทั้งเรื่องการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตร พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ รวมถึงสถานที่ในการจัดฝึกอบรม ที่จะต้องเปลี่ยนประสบการณ์จากการเรียนรู้แบบเดิมไปสู่การเรียนรู้แบบใหม่ที่พนักงานไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

สำหรับความสำเร็จเล็ก ๆ ในช่วงเริ่มต้นของเราก็คือการได้เริ่มเปิดหลักสูตร Data Analytics for Upskilling ร่วมกับ Depa และ AIT และ Coding the Future ร่วมกับสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ที่สนใจจะพัฒนาทักษะของตัวเองเพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงาน โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าเรียนทั้งหมด แบ่งเป็น รุ่นที่ 1 จำนวน 1,056 คน รุ่นที่ 2 จำนวน 1,184 คน รวมทั้งสิ้น 2,240 คน และเป็นหลักสูตรต่อเนื่อง โดยจะจบหลักสูตรในเดือน ต.ค.2564 ระหว่างการเรียนรู้มีแบบฝึกให้ปฏิบัติจริง เชื่อว่าผู้เรียนจะสามารถนำเอาทักษะและความรู้ใหม่นี้ไปใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี

ส่วนความท้าทายที่เราเจอและเป็นสิ่งที่ทีมกำลังพยายามหาแนวทางเพื่อดำเนินการให้ประสบความสำเร็จอยู่ก็คือการทำให้การเรียนรู้หรือการพัฒนาตนเอง สามารถเชื่อมโยงเข้ากับการหาโอกาสในการทำงาน การหางานหรือเปลี่ยนงานใหม่ที่จะได้มีโอกาสนำทักษะใหม่นี้ไปประยุกต์ใช้ในงานได้จริง ๆ เพื่อทำให้กลายเป็นความสามารถติดตัวของแต่ละคนไปตลอดและเป็นการช่วยสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป

ปัจจุบัน SCB Academy ได้ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่ามีอะไรบ้าง และทำเพื่ออะไร

เพื่อเป้าหมายของเราคือ 1,000,000 การเรียนรู้ เราจึงแบ่งกลุ่มของ Partner ไว้ 9 areas ด้วยกันได้แก่ Tech Media, Education, Government, eCommerce, Startup, SME, Content Provider, Tech Global และ Telco ซึ่งอนาคตเราก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นอีก ที่ผ่านมา SCB Academy ได้ทำความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa เพื่อช่วยหาทุนสนับสนุนให้กับกลุ่ม SME ทั่วประเทศ

ปัจจุบันเรากำลังช่วยกรมสรรพากรในการ Upskill บุคลากร และกำลังร่วมมือกับสำนักงาน ก.พ. ในการทำโครงการ Skill Future for Thailand Workforce เพื่อยกระดับทักษะความรู้ให้กับบุคลากรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และล่าสุดที่เพิ่มบรรลุอีกหนึ่งความร่วมมือคือการที่เราได้นำหลักสูตรของเรา 4 หลักสูตรไปอยู่บน Platform ที่ชื่อว่า Saphan Digital ของ Google

อนาคตของ SCB Academy จะเป็นอย่างไรต่อไป และให้ความสำคัญกับเรื่อง Future Skill แบบไหน

อนาคตของ SCB Academy คือการนำประสบการณ์ในเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของคนและองค์กรในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาไปสร้างประโยชน์ต่อให้กับลูกค้าของธนาคาร สังคม และประเทศในการ เตรียมความพร้อมเรื่องความรู้ ทักษะ และวิถีในการทำงานในโลกของอนาคต (Future of Work) โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะสร้างโอกาสให้คน 1 ล้านคนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อสามารถใช้ในการประกอบอาชีพในงานที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยทำอยู่เดิม ในขณะนี้สิ่งที่เราได้เริ่มทำไปแล้วก็คือ การสร้างแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า พลเมืองดี (จิตัล) หรือ PMD เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมการเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นในการทำงานในโลกแห่งอนาคต

โดยเราได้จับมือกับพันธมิตรกว่า 30 องค์กรที่เป็นเจ้าของ content ในแขนงต่าง ๆ นอกจากนั้นเราก็กำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้าง Thailand’s Future Skills Roadmap และ Development Ecosystem เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีแนวทางร่วมกันในการพัฒนา Essential Skills ของคนไทยทั้งประเทศเพื่อสร้างให้เกิดเป็นขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคตอย่างมีระบบและเป็นรูปธรรม และเพื่อให้เป้าหมายที่เราตั้งไว้ประสบความสำเร็จได้ เราก็กำลังทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัท start-up ทางด้าน EdTech และ HRTech เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่จะทำหน้าที่เป็น Skill Marketplace เชื่อมโยงองค์กรที่ต้องการทักษะใหม่ ๆ ไปใช้ในการทำงานหรือโครงการต่าง ๆ กับบุคลากรที่ได้พัฒนาตนเองจนมีทักษะความสามารถในการทำงานใหม่ ๆ ในโลกการทำงานแห่งอนาคต

พลเมืองดีจิทัล คืออะไร เกี่ยวกับ SCB Academy อย่างไร และสร้างมาเพื่ออะไร

พลเมืองดี(จิทัล) หรือ PMD เป็น แพลตฟอร์มที่ SCB Academy สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้หลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวกับทักษะอนาคตเช่น Customer Centric, Data Analytics, Agile และ Digital Technology ต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้คนข้างนอกได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น เพื่อสังคม เพราะเราอยากช่วยในการพัฒนาคนเพื่อรองรับกับโลกของอนาคต

แต่ทั้งหมดนี้ เราทำด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ เราจึงออกไปคุยกับพาร์ตเนอร์หลากหลายทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐบาล องค์กรต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนใหญ่ทุกคนมีแพสชันอยากช่วยเหลือกันทั้งนั้น เราก็ไปชวนให้เขานำคอนเทนต์ของเขาเข้ามา เอาโปรแกรมของเขาเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มของเรา แล้วเราก็พยายามไปหาคนที่มีความสนใจอยากจะพัฒนาตัวเองมาอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ เป็นการดึงดูดคนทั้งสองกลุ่มมาอยู่ในแพลตฟอร์มการเรียนรู้นี้ด้วยกัน โดยที่แพลตฟอร์มนี้จะต้องไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร ทุกคนเรียนฟรี พาร์ตเนอร์ที่เข้ามา ก็มาด้วยใจจริง ๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไร แล้วมาพัฒนาทักษะของโลกของอนาคตด้วยกันครับ

ซึ่งเราได้ Launch ไปแล้ว 2 โครงการคือ Data Analytics for Upskilling ที่เราร่วมมือกับ สถาบัน AIT ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาลคือ DEPA ทำหลักสูตรนี้ขึ้นมา และอีกโครงการ Coding The Future ที่เราร่วมกับสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ร่วมกับ Microsoft เปิดรับประชาชนทั่วไปตั้งแต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ เริ่มจากศูนย์เลยก็ได้ หรือจะพอมีประสบการณ์ก็ได้ แต่อยากมีความสามารถในการเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือเขียนโค้ดได้ อนาคตก็คิดว่า PMD 47 จะสามารถตอบโจทย์กับสังคมในวงกว้างได้มากขึ้น SCB Academy เชื่อว่า โครงการนี้จะเป็นการรวมพลังกับพาร์ตเนอร์ของเรา เพื่อสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาช่วยสังคมไทย ให้เตรียมความพร้อมสำหรับโลกอนาคตให้ได้

สุดท้าย...อยากฝากอะไรเกี่ยวกับ Lifelong Learning

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำยังไงให้คนเรามีความสุข หรือมีความรักในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาตัวเอง อันนี้ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดของทุกสถาบันการศึกษา หรือว่าทุกองค์กรที่ทำเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากร เพราะมันคือการช่วยกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เป็น Lifelong Learning เพื่อให้คนมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียนเท่านั้น

เพราะในปัจจุบันหรือโลกในวันข้างหน้าจะไม่มีสูตรตายตัวหรือสูตรสำเร็จว่า ถ้าทำแบบนี้แล้วเราจะสำเร็จ 100% เพราะฉะนั้น เมื่อโลกมันเป็นแบบนี้ มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เข้ามามากมาย การเรียนรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญ การเรียนรู้ในห้องเรียนอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่อาจจะเป็นตัวช่วย ขณะเดียวกัน การเรียนรู้ในการทำงานจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วถ้าเรามีกระบวนการที่ดี หรือมีเครื่องมือที่สามารถทำให้คน ๆ หนึ่งสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ตรงนั้นจะเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของเขาเลย