ไม่มีชิ้นดี รู้สึกเหมือนหัวใจสลายราวกับโลกจะแตกเสียให้ได้ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่เคยเป็น เหมือนความสุขโดยปล้นไปจากชีวิตจนหมดสิ้น แม้ร่างกายจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่กลับรู้สึกเหมือนมีใครเอามีดมากรีดหัวใจ มีไฟสุมอยู่ในอกตลอดเวลา นี่แหละหนอ...อาการของคนอกหัก
แม้คนรอบตัวจะพร่ำบอกว่า เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งเอง แต่เวลาของคนอกหักนั้นดูจะเดินช้า และช่างผ่านไปอย่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ยิ่งใครที่เป็นหนักมากก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้เลย ใครว่าอกหักไม่ถึงกับตายอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะในทางการแพทย์มีการยืนยันแล้วว่า โรคหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome) เป็นโรคหัวใจชนิดหนึ่งที่เกิดจากความเครียด ซึ่งมีสาเหตุมาจากสภาวะทางด้านจิตใจที่ถูกบีบคั้นจากการสูญเสียคนรักไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนความเครียดเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง ทำให้หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เต็มที่นำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ในที่สุด
เห็นไหมว่าอาการหัวใจสลายไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะคะ จะเอาเรื่องอกหักมาแซวเพื่อนเอาขำอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องลองสังเกตเพื่อนเราดูดี ๆ ด้วยว่าเขาหรือเธอมีอาการหนักมากน้อยแค่ไหน บางคนโดนบอกเลิกบ่อยจนชินชาไปแล้วเพราะมีภูมิต้านทานมากพอ แต่กับบางคนที่หัวใจเปราะบาง และเป็นคนอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว หากเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจมาก ๆ อย่างการสูญเสียคนรัก โดนปฏิเสธ ผิดหวังอย่างแรง หรือประสบอุบัติเหตุก็อาจมีอาการหัวใจสลายได้อย่างฉับพลัน โดยผู้ป่วยมักมีอาการดังต่อไปนี้
Broken Heart Syndrome คือตัวอย่างของโรคที่แสดงให้เห็นว่า ความเจ็บปวดทางใจก็มีผลโดยตรงต่อความเจ็บป่วยทางร่างกายได้เหมือนกัน ดังนั้นวิธีป้องกันไม่เกิดภาวะหัวใจสลายคือ เลือกคบคนดีที่เขาจะไม่มีวันทิ้งเรา! (งานนี้คงต้องแอบหัวเราะทั้งน้ำตา) แต่ความเป็นจริงคงทำได้ยากใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นเพลงอกหักคงไม่ฮิตติดชาร์ตกันทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเมื่ออกหักหรือหัวใจสลายแล้วมันจะไม่มีวันหาย เพราะจากข้อพิสูจน์ทางการแพทย์พบว่า หัวใจของคนที่ป่วยด้วยโรคนี้สามารถฟื้นฟูให้กลับมาหายดีได้เองภายใน 1-8 สัปดาห์
นอกจากนี้แพทย์โรคหัวใจจาก Lankenau Medical Center ในสหรัฐอเมริกา ยังได้เสนอแนวทางขั้นพื้นฐานสำหรับรักษาหัวใจที่บอบช้ำจากโรคหัวใจสลาย ซึ่งสามารถทำได้เองง่าย ๆ ด้วยการหากิจกรรมลดความเครียดทำ เช่น อ่านหนังสือที่ชอบ นั่งสมาธิ ออกกำลังเบา ๆ อย่างโยคะ ออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือจะท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้ แบบนี้ที่เค้าว่ากันว่า “ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า” ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงไปนัก ลองไปให้ธรรมชาติบำบัดรักษาเยียวยาจิตใจดวงน้อย ๆ ของคุณดูบ้างก็ดี
แล้ววันหนึ่งเมื่อมองย้อนกลับมา คุณอาจกลับมายิ้มให้กับคนที่ทิ้งคุณไป และเป็นเค้าที่ต้องเสียใจและเสียดายที่ปล่อยเพชรเม็ดงามอย่างคุณไป!