พักผ่อน แต่เงินไม่พอใช้ ชีวิตวัยเกษียณคุณจะเป็นแบบไหนทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลของการกระทำของคุณในวันนี้นี่แหละ ดังนั้นจะเกษียณสุขหรือเกษียณทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนของเราแล้ว
สำหรับคนที่ทำงานประจำต้องตื่นแต่เช้าตรู่ออกจากบ้านไปทำงาน ตะวันลับขอบฟ้าถึงได้กลับถึงบ้านเป็นแบบนี้มาสามสิบสี่สิบปี จู่ ๆ ก็กลายมาเป็นคนว่างงานอีกครั้ง ไม่ต้องอยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์ ไม่มีข้อบังคับใด ๆ มาเป็นตัวกำหนดการดำเนินชีวิต ได้กลับมาเป็นเจ้านายของเวลาอย่างแท้จริง มีเวลาเหลือเฟือมากมาย ไม่มีแบบแผนในการใช้ชีวิตตายตัว เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง!
หากใครรู้สึกแบบนี้ว่าได้อิสระอย่างที่ฝันคืนมา เราก็ขอยินดีด้วย เพราะนั่นแสดงว่าคุณไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ต้องวิตกกังวล และสามารถใช้ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ได้อย่างสบายอกสบายใจ
แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่ได้แบบนั้นน่ะสิ! เพราะหลังเกษียณไปแล้ว พวกเขากลับมารู้สึกเคว้งคว้าง ไร้ตัวตนและแอบเหงาอยู่บ่อย ๆ เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน เพื่อนฝูงก็นาน ๆ ได้เจอที แถมลูกหลานก็ออกไปทำงานหรือไปเรียนกันหมด สภาพจิตใจเลยพลอยห่อเหี่ยวตามไปด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับคนช่วงวัยนี้ โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนแรกหลังการเกษียณใหม่ ๆ ที่อาจยังต้องใช้เวลาปรับตัวปรับใจอยู่บ้าง เพราะไม่ชินกับสภาพชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป
ดังนั้นคำแนะนำสำหรับคนที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณคือให้ลองเตรียมตัวเตรียมใจวางแผนกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ได้แก่...
1. วางแผนการเงินให้เป๊ะ
เมื่ออายุขึ้นเลข 5 ต้องทำให้แน่ใจว่าจะสามารถเคลียร์ภาระหนี้สินที่มีอยู่ให้หมดได้ทันภายใน 10 ปี เพราะเมื่อถึงตอนเกษียณไม่มีรายได้ประจำแล้วก็ไม่ควรมีหนี้สินตกค้างแล้วเช่นกัน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าต้องเอาเงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากการเกษียณมาโปะหนี้ให้หมดไป แทนที่จะเป็นเงินเก็บที่นำไปใช้จ่ายหลังเกษียณ
นอกจากนี้การวางแผนการเงินก่อนเกษียณก็เป็นเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้ และควรทำตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดภายหลัง
2. ดูแลสุขภาพให้ดี
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนวัยเกษียณเลยก็ว่าได้ เพราะยิ่งอายุมากขึ้นสภาพร่างกายย่อมเสื่อมโทรมลงเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเราจึงต้องมีวินัยในการดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ได้สารอาหารที่จำเป็นครบ 5 หมู่ งดทานอาหารรสจัด
หากใครเป็นสายดื่มก็ต้องเพลา ๆ ลงหน่อยหรือเลิกไปได้ยิ่งดี เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา เพราะหากล้มป่วยหรือเจ็บหนักขึ้นมาในวัยนี้ โอกาสฟื้นตัวให้กลับมาหายดีเป็นปกติจะยากกว่าวัยหนุ่มสาวหลายเท่า ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ยิ่งเป็นข้อจำกัดในการใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการไปอีก
3. หากิจกรรมยามว่างทำ
ใครว่าเกษียณแล้วต้องหยุดทำงานทุกอย่าง ขอบอกว่าไม่จริง! คุณคิดผิดอย่างแรง เพราะยิ่งว่างมากจนไม่มีอะไรทำ ยิ่งทำให้คิดมากฟุ้งซ่านไปต่าง ๆ นานา ๆ กลายเป็นวิตกกังวลและซึมเศร้าไปอีก ถ้าที่ดีเราจึงควรมองหากิจกรรมที่เราชอบมาทำต่อ ให้จิตใจรู้สึกเบิกบาน และเพลิดเพลินไปกับมันได้
ใครยังมีไฟอยากทำงานต่ออาจลองรับงานเป็นอาจารย์สอนพิเศษ หรือที่ปรึกษา วิทยากรให้บริษัทต่าง ๆ ให้ลองหางานที่ไม่เครียดจนเกินไปแต่มีรายได้เข้ามาบ้าง แม้ไม่มากเท่าสมัยที่ทำงานประจำแต่ก็ถือว่าเราได้ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ที่มีถ่ายทอดให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานได้อย่างเต็มที่
มาถึงตอนสุดท้ายของซีรีย์ชุด “Coming of Age” กันแล้ว เพราะชีวิตคือการเดินทาง คนแต่ละช่วงวัยต่างมีปัญหาและความทุกข์ในแบบของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ความเครียดและความเจ็บปวดเหล่านั้นที่ใครหลายคนกำลังเผชิญอยู่ จะสอนให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีกว่าเดิมทุกครั้งที่เราผ่านมันมาได้
ดังนั้นจงอย่าหวั่นใจ หรือเกรงกลัวต่อปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งกลัวปัญหาเหล่านั้นก็ยิ่งตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ วิธีเอาชนะความกลัวที่ดีที่สุดจึงคือ การเผชิญหน้ากับมัน!!
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตในช่วงวัยต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี