ที่บ้านของเราให้เป็นเหมือนการเล่นเกมสนุก ๆ เกมหนึ่งได้เช่นกัน แล้ว เราจะใช้ VR มาช่วยอัพเกรดการ work from home ให้น่าสนใจอย่างไรได้บ้าง มาดูกันเลย!

1. สร้างออฟฟิศจำลองพร้อมร่างอวตารให้การประชุมไม่น่าเบื่อ

ถึงแม้การประชุมจากที่บ้านจะช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องเหนื่อยหาห้องประชุม วิ่งวุ่นเตรียมจองห้อง และจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้า แต่การประชุมออนไลน์ผ่านหน้าจอคอมก็มีข้อเสียตรงที่ทำให้ลดความใกล้ชิดระหว่างกันลงไปด้วย

การใช้เทคโนโลยี VR จึงอาจเป็นทางออกที่ช่วยลดความเหินห่างของการประชุมออนไลน์ที่ต่างคนต่างนั่งอยู่คนละที่ลงได้ โดยการจำลองห้องทำงานหรือห้องประชุมในออฟฟิศแบบเสมือนจริงขึ้นมา แล้วมีตัวอวตารของเราทำกิจกรรมในออฟฟิศเสมือนจริงที่สร้างขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้รู้สึกถึงบรรยากาศการทำงานที่ได้ใกล้ชิดกันขึ้นมาอีกนิด โดยใช้ร่างอวตารของเราไปพบปะเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศเสมือนจริง ทั้งเท่ทั้งสนุกไปอีก!

2. สร้างโชว์รูมสินค้าให้เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ไม่มีสะดุด

สำหรับคนที่ทำงานในวงการค้าปลีก ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย แผนกบริการลูกค้า หรือภาคส่วนที่ต้องติดต่อกับคนภายนอก เทคโนโลยี VR ถือเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่จะช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ทำให้เกิดความประทับใจแก่ลูกค้าหรือคนภายนอกได้

เพราะจุดเด่นของเทคโนโลยี VR คือการจำลองประสบการณ์เสมือนจริง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะสร้างโชว์รูมสินค้า ให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัส ทดลองใช้สินค้าและบริการแบบเสมือนจริง แถมยังสามารถสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์กับร่างอวตารของเราได้โดยตรง เสมือนมีพนักงานสแตนบายอยู่ในช้อปจริง ๆ

เรียกได้ว่า เป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ ประสบการณ์ใหม่ให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องนัดพบกันจริง ๆ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ลดความเสี่ยงในการออกไปข้างนอกช่วงโควิดแพร่ระบาด แถมยังสร้างความแปลกใหม่ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย เห็นไหมว่าแม้ WFH ก็ติดต่อขายของให้ลูกค้าได้ไม่มีสะดุดเหมือนกัน

3. สร้างประสบการณ์ฝึกอบรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ

การเทรนนิ่ง (Training) จากที่บ้านจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป หากเราใช้เทคโนโลยี VR จำลองกิจกรรมฝึกอบรมสนุก ๆ ที่เคยมีข้อจำกัดในชีวิตจริงที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน

การเปลี่ยนประสบการณ์ฝึกอบรมพนักงานให้เป็นเหมือนการเล่นเกม อย่างการทำ VR facility tour จะช่วยกระตุ้นให้คนอยากรู้จัก เรียนรู้ และมีความสุขกับการฝึกอบรมของบริษัทมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรในภาพรวมดีขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี VR เข้ามาใช้ในการฝึกอบรมพนักงาน ยังเป็นการช่วยให้พนักงานได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับระบบการทำงานนั้น ๆ ก่อนเริ่มงานจริง ทำให้พนักงานมีความคุ้นเคยกับเนื้องานมากขึ้น ฝึกอบรมอย่างไรให้สนุก VR จะช่วยตอบโจทย์นี้เอง!

ถึงแม้จะทำงานอยู่ที่บ้าน ก็ใช่ว่าเราจะก็ enjoy กับงานไม่ได้ ลองนำเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) เข้ามาใช้ในการทำงานดูสิ แล้วคุณจะค้นพบว่า การทำงานที่บ้านมันสนุกได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!!