เทคโนโลยีใหม่นี้ด้วยเช่นกัน!
vr

VR (เทคโนโลยีเสมือนจริง) คืออะไร?

VR คือ เทคโนโลยีที่จะพาคุณดำดิ่งไปสู่สภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นมาเสมือนจริง บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งอย่าง Google และ Facebook ต่างก็กำลังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอันน่าตื่นเต้นนี้ให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จุดเด่นของ VR อยู่ที่การสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริงให้ผู้คนเข้าถึงได้ แม้ว่าร่างกายจะอยู่ในสถานที่จริงที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประสบการณ์ VR ไม่เพียงแค่เสมือนจริงด้วยภาพ แต่ยังอาจรวมถึงเสียงและสัมผัสอีกด้วย
vr
เปลี่ยนการฝึกอบรมและทดสอบทักษะให้มีชีวิตชีวากว่าเดิมด้วย VR
เนื่องจาก VR สามารถจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงได้ บริษัทจึงสามารถนำไปใช้เพื่อฝึกอบรมพนักงานได้เช่นกัน ซึ่งอาจเป็นเพียงการจำลองภาพสถานการณ์จริงบางส่วน หรือเป็นโปรแกรมฝึกอบรมเต็มรูปแบบที่รวมถึงระบบเสียง และสัมผัสด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะที่ต้องการฝึกอบรมพนักงาน
vr
การเปลี่ยนจากการฝึกอบรมในสภาพแวดล้อมจริงมาเป็น VR มีประโยชน์ในหลายด้าน อันดับแรกก็คือ เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานเพราะในบางอาชีพ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลย ดังนั้น การป้องกันอุบัติเหตุประเภทนี้ได้จึงหมายถึง การได้รักษาทรัพยากรที่มีค่าอย่างชีวิตมนุษย์ไว้ได้
vr

อันดับต่อมาก็คือ การที่ VR มีส่วนช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัท ตัวอย่างเช่น บริษัทสามารถฝึกอบรมพนักงาน Call Center ด้วยโปรแกรมจำลองลูกค้าเสมือนจริงแทนที่จะใช้ลูกค้าจริงหรือพนักงานที่เป็นคนจริงมาแสดงเป็นลูกค้า ซึ่งมีส่วนช่วยลดทั้งความไม่พอใจของลูกค้าจริงๆ และค่าใช้จ่ายในการจ้างคนมาช่วยฝึกอบรมในแต่ละครั้งลงด้วย
vr

นอกจากนี้ วิธีการฝึกอบรมแบบนี้ยังดีกว่าการให้พนักงานท่องจำขั้นตอนการทำงานเองจากเอกสารจำนวนมาก เพราะการอ่านบทเรียนที่สั่งสอนว่า เราต้องมี “ความเข้าอกเข้าใจ” ลูกค้าเป็นเหมือนเพียงแค่ทฤษฎีในหน้าหนังสือที่ต้องจดจำเท่านั้น แต่มันถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย หากได้ลองเข้าถึงเข้าใจลูกค้าในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมเสมือนจริงผ่าน VR
vr

VR ช่วยเนรมิตออฟฟิศเสมือนจริง

ตั้งแต่ยุคโควิด-19 ทำให้หลายบริษัทเริ่มหันมาใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานแบบ Hybrid แทนส่งผลให้พนักงานมีโอกาสในการพบปะกันน้อยลง ส่งผลต่อความผูกพันของพนักงานกับองค์กร ซึ่ง VR อาจเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้ เพราะสามารถจำลองประสบการณ์การทำงานในสำนักงานได้ค่อนข้างสมจริงผ่านการสร้างออฟฟิศเสมือนจริงที่มีโต๊ะทำงานให้ทุกคนได้นั่งใกล้กัน
vr

ดังนั้น พนักงานก็จะมีโอกาสในการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น เนื่องจากรู้สึกเหมือนนั่งทำงานอยู่ใกล้กัน การทำงานร่วมกันก็ง่ายขึ้น เพราะ VR รองรับการประชุมเสมือนจริง พนักงานสามารถสร้างร่างอวตารเพื่อเป็นตัวแทนของตนเองได้ นอกจากนี้ยังวาดภาพบนกระดานไวท์บอร์ดได้ หรือแม้กระทั่งได้ยินเสียงที่ถูกปรับไปตามระยะห่างระหว่างตนเองกับผู้พูดได้ด้วย
vr

ถึงแม้ว่ายังต้องอาศัยการวิจัยและพัฒนามากขึ้นก่อนที่ VR จะสามารถนำไปใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ศักยภาพของมันก็น่าตื่นเต้น และเป็นที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยสำหรับใครหลาย ๆ คน ในอนาคตอันใกล้ก็หวังว่าเราจะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำให้ชีวิตการทำงานของเรามีความสนุกสนาน และง่ายขึ้นกว่าเดิม!