หัวใจของการดำเนินธุรกิจไม่ได้หมายถึง เรื่องของกำไรและขาดทุนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้สื่อสารกับลูกค้าได้ว่า องค์กรดำรงอยู่ไปเพื่ออะไร มีประโยชน์กับผู้บริโภคและสังคมอย่างไร ซึ่งการมีจุดยืนที่ชัดเจนนี้เองจะทำให้ลูกค้ารัก และมีส่วนร่วมกับองค์กรเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือ จะทำให้องค์กรมีความโดดเด่น แตกต่างจากองค์กรอื่นท่ามกลางธุรกิจที่แข่งขันกันสูงในปัจจุบัน

เมื่อปี 2017 คุณ Mark Zuckerberg ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Harvard ไว้ว่า “…ความท้าทายของคนรุ่นเราคือ การสร้างโลกที่ทุกคนมี การสำนึกในเป้าหมาย (Sense of Purpose)…” นอกจากนั้นยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ John F. Kennedy เดินทางไปเยี่ยม NASA Space Center และทักทายพนักงานทำความสะอาด ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งพนักงานคนนั้นได้ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มว่า

“ท่านประธานาธิบดีครับ ผมกำลังช่วยพามนุษย์ขึ้นไปสู่ดวงจันทร์อยู่”

เป้าหมายขององค์กรมีความยิ่งใหญ่เสมอ และเมื่อเรารับรู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง และเห็นคุณค่าในตัวเอง จะทำให้เรารู้สึกมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น องค์กรจึงต้องมีการสื่อสารกับพนักงานเพื่อให้เกิด “สำนึกในเป้าหมาย (Sense of Purpose)” ให้พนักงานทุกระดับรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายกับโลกใบนี้

ว่าแต่จะสร้างทีมอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกถึง “Sense of Purpose” เรามาลองดูเทคนิคและวิธีการสื่อสารกันค่ะ

1. สื่อสารด้วย Story ดี ๆ จับใจ
ใคร ๆ ก็ชอบเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นแนวโรแมนติก เรื่องสยองขวัญ หรือดราม่าซับซ้อน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ฟัง จะยิ่งทำให้คนมองภาพต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน มีความรู้สึกผูกพันไปด้วยได้ไม่ยาก

การเล่าเรื่องหรือ Storytelling ถูกใช้ในการสื่อสารในองค์กรมากขึ้น ในรูปแบบภาษาทั่วไป ที่ใช้เรื่องราวแฝงไว้ด้วยสัญลักษณ์ของสิ่งที่ต้องการสื่อเพื่อสร้างความเข้าใจกับเป้าหมายที่ตรงกันให้กับคนเสพสื่อ หลายครั้งมักมีการใช้เนื้อหาเชิง Emotional เข้ามาดำเนินเรื่องร่วมกับแก่นหลักของเรื่อง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม

2. แสดงออกถึงความจริงใจ
แน่นอนว่าแม้การเล่าเรื่องจะน่าประทับใจแค่ไหน แต่หากขาดความจริงใจ สร้างภาพจนเกินความเป็นจริง อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามกับที่เราตั้งใจไว้ แทนที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีม กลับจะทำให้ทีมขาดการมีส่วนร่วม และอาจลามไปถึงเกิดการต่อต้านสิ่งที่องค์กรพยายามจะสื่อได้

3. สร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน
การที่องค์กรจะบรรลุเป้าหมาย ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่เกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีม ดังนั้นนอกจากการแสดงออกด้วยความจริงใจแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำอีกอย่างคือ การตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้คนในองค์กรมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำ ว่ามีความสำคัญต่อทีมหรือองค์กรอย่างไร เมื่อทุกคนเห็นคุณค่าของงานที่ตัวเองทำอยู่แล้ว การทำงานร่วมกันในหน่วยงานก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ต่อให้องค์กรมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เพียงใด หากทีมงานไม่รู้สึกถึงการมีส่วนร่วม ก็ย่อมจะไม่เกิดผลลัพธ์อย่างที่หวัง ดังนั้นการสร้าง “Sense of Purpose” ให้เกิดขึ้นในองค์กรจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ขององค์กรไปด้วยกัน