career


ไม่กล้าขัดนาย แต่ก็ไม่เป็นตัวเองเลย ทำไงดี?


เคยเป็นกันไหม? ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีไอเดียดี ๆ ซึ่งอาจทำให้งานออกมาดีขึ้น หรือเป็นประโยชน์ต่อบริษัทแน่ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เสนออะไรให้เจ้านายฟังเลย อีกทั้งบางคนอาจรู้สึกไม่เห็นด้วยกับบางเรื่องที่เจ้านายสั่งมา แต่ก็ไม่มีความกล้าพอจะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง

รวมทั้งกังวลว่าจะกระทบต่อหน้าที่การงานอีกด้วย แล้วเราจะรับมือและวางตัวกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไรดี มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย!

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า สาเหตุที่เรากังวลเรื่องการแสดงความคิดเห็นนั้นอาจมาจากความไม่มั่นใจในความรู้และความสามารถของตัวเองหรือความคิดเห็นของเราโดนปัดตกบ่อยครั้งเสียจนไม่มีกำลังใจพอที่จะเสนออะไรใหม่ ๆ นอกจากนี้ แม้ว่าในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรจะเริ่มเปิดรับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของพนักงานมากขึ้น แต่ก็ยังมีเจ้านายบางคนไม่ค่อยยอมรับความเห็นต่างมากนัก


แก้ไขยังไงดี ให้กล้า Speak Out ในสิ่งที่คิด
เมื่อเรามีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับเจ้านาย แทนที่จะนั่งนิ่งเงียบเหมือนปกติ ให้ลองเปลี่ยนเป็นโต้ตอบด้วยเหตุผลที่ชัดเจน ไม่พูดกำกวมหรือวกวนไปมา รวมทั้งควรมีหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลวิจัย หรือข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการโน้มน้าว พร้อมทั้งเสนอคำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริง หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เรายกขึ้นมา ถ้าความคิดของเราเป็นประโยชน์ต่อองค์กรจริง นอกจากจะได้ช่วยแก้ปัญหาของบริษัทแล้ว เราเองก็จะได้รับความไว้วางใจ และความประทับใจจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานด้วย

นอกจากแง่คิดที่ดีแล้ว วิธีการพูดก็สำคัญไม่แพ้กัน เราควรออกความเห็นอย่างสุภาพ และให้เกียรติเจ้านาย ไม่ควรพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดหรือข่มขู่ผู้อื่น ลองพยายามทำให้บรรยากาศในการประชุมดำเนินไปด้วยพลังบวก อย่างการเริ่มต้นจากคำชมแล้วค่อยเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จะได้มีแนวโน้มที่จะกล้าออกความเห็น และมีอิสระทางความคิดมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่น ๆ อย่างการแสดงความคิดเห็นทางส่วนตัว หรือทางแบบสอบถามข้อเสนอแนะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท รวมทั้งเราควรสังเกตและเลือกจังหวะที่เหมาะสมแก่การโต้แย้ง หากเจ้านายกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เคร่งเครียด ก็คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเท่าไรนัก

หลังจากเสนอแนวคิดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมรับฟังความเห็นต่างจากทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองที่แตกต่างกันด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว เป้าหมายหลักของการสื่อสารในครั้งนี้ ก็คือการคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น และนำพาองค์กรไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม

เป็นไปได้ที่เราอาจรู้สึกเป็นกังวล และไม่สบายใจในการเห็นต่างกับเจ้านาย แต่ถ้าเราลองเสนอความคิดของเราด้วยเหตุและผล โดยใช้น้ำเสียงและคำพูดที่สุภาพ รวมถึงเปิดใจรับฟังมุมมอง ความคิดของกันและกัน ก็จะช่วยให้สภาพแวดล้อมในที่ทำงานเปิดกว้างสำหรับความเห็นของทุกคนมากขึ้น อีกทั้งอาจได้เจอทางออกของปัญหาที่บริษัทกำลังแก้ไขกันอยู่นั่นเอง