career


เมื่อหมดแรง..ต้องพักแบบไหนให้หายเหนื่อย


เคยไหมทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยแทบแย่ รู้สึกหมดเรี่ยวแรง เลยนอนให้มากขึ้น แต่พอตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่ดี ถ้าคุณคิดว่าการนอนหลับและการพักผ่อนเป็นเรื่องเดียวกันล่ะก็ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ! ในสังคมที่ต้องไขว่คว้าความสำเร็จ และผลลัพธ์ที่ดีเลิศ

ทำให้หลายคนต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งการทำงานหนักหรือต่อเนื่องเป็นเวลานานก็อาจทำให้กลายเป็นโรคเหนื่อยอ่อนเพลียเรื้อรัง หรืออาจถึงขั้นหมดไฟในการทำงานไปพักหนึ่ง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกอยู่ในภาวะแบบนี้ นั่นก็เป็นเพราะคุณไม่ได้เข้าใจพลังของการพักผ่อนที่แท้จริง

ตามแนวคิดของ Dr. Saundra Dalton-Smith แพทย์และนักวิจัย เจ้าของหนังสือ “Sacred Rest: Recover Your Life, Renew Your Energy, Restore Your Sanity” ได้พูดถึง การพักผ่อนที่จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตแบ่งออกได้เป็น 7 รูปแบบดังนี้

1. การพักผ่อนทางกาย (Physical Rest)

การพักทางกายให้หายเหนื่อยแบบที่เรารู้จักกันดีคือ การนอนหรืองีบหลับ และยังรวมถึงกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดและสร้างความยืดหยุ่นให้ร่างกายอย่างโยคะ การยืดกล้ามเนื้อ และการนวดผ่อนคลาย

2. การพักผ่อนทางจิตใจ (Mental Rest)

คุณอาจเริ่มต้นวันทำงานด้วยกาแฟแก้วโต แต่ก็ยังรู้สึกหงุดหงิดและขี้ลืมอยู่บ่อย ๆ แถมพบว่าตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อกับการทำงานเท่าที่ควร และแม้ว่าจะนอนไปแล้ว 7-8 ชั่วโมง แต่พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกราวกับว่าไม่เคยนอนมาก่อน นอนเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ดี นี่แหละสัญญานของคนขาดการพักผ่อนทางจิตใจ

วิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ เลยไม่ใช่การหยุดงาน หรือลาไปพักร้อนที่ไกล ๆ แต่ให้ลองจัดตารางพักเบรกทุก 2 ชั่วโมงตลอดวันทำงาน การจัดช่วงหยุดพักแบบนี้จะทำให้คุณทำงานได้มีสติมากขึ้น นอกจากนี้ก่อนนอนก็ควรหาสมุดโน๊ตมาจดสิ่งที่รบกวนจิตใจหรืออยู่ในความคิดมาตลอดทั้งวันลงไป เพื่อไม่ให้นำกลับไปคิดต่อตอนนอน

3. การพักผ่อนประสาทสัมผัส (Sensory Rest)

แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไฟนีออน เสียงรบกวนรอบข้าง เสียงคนคุยกันรอบตัว ไม่ว่าคุณจะทำงานในออฟฟิศหรือคุยงานผ่านวิดีโอคอล สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ประสาทสัมผัสของคุณรู้สึกเหนื่อยล้าได้

วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดก็คือ การหลับตาลงสักหนึ่งนาทีในช่วงพักระหว่างวัน เช่นเดียวกับการถอดปลั๊กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายเมื่อสิ้นสุดวันทำงาน เพื่อให้ประสาทสัมผัสของคุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น จากโลกที่มีสิ่งเร้ารอบตัวคอยกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสต้องทำงานตลอดเวลา

4. การพักผ่อนแบบสร้างสรรค์ (Creative Rest)

การพักผ่อนแบบนี้จำเป็นอย่างมากสำหรับคนทำงานที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ หาวิธีแก้ปัญหา หรือต้องระดมสมองหาไอเดียใหม่ ๆ เพราะการพักผ่อนประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นความสงสัย แรงบันดาลใจ และความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นในตัวเราได้

การชื่นชมธรรมชาติอย่างการออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ หรือสวนหย่อมหลังบ้าน นึกถึงภาพทะเล น้ำตก ภูเขาที่เคยไปก็ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนแบบสร้างสรรค์ได้เช่นกัน แต่หากใครไม่มีเวลาออกไปข้างนอกก็อาจลองหาภาพสถานที่ที่ชอบ หรืองานศิลปะที่คุณประทับใจมาติดไว้ในออฟฟิศเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานได้อีกทางหนึ่ง

5. การพักผ่อนทางอารมณ์ (Emotional Rest)

การพักประเภทนี้คือ การมีเวลาและพื้นที่ให้ได้ระบายความรู้สึกของตัวเองอย่างอิสระ ไม่มีอะไรมาปิดกั้น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้คนอื่นไม่พอใจหรือไม่

การพักผ่อนทางอารมณ์จึงต้องอาศัยความกล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างแท้จริง ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง และกล้าตอบคำถาม “วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” ได้อย่างตรงไปตรงมาว่า “รู้สึกไม่โอเคเลย...” และแชร์เรื่องราวที่ทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจออกมาได้อย่างหมดเปลือก

6. การพักผ่อนทางสังคม (Social Rest)

การพักผ่อนทางสังคมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ไม่สามารถแยกแยะความสัมพันธ์ที่ดีและความสัมพันธ์ที่แย่ ๆ ออกจากกันได้ การถูกแวดล้อมไปด้วยคนหลากหลายประเภทโดยเฉพาะคนที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและหมดแรง ทำให้คุณต้องการการพักผ่อนทางสังคมที่ดี จากคนที่มีความคิดเชิงบวก และคอยช่วยสนับสนุนให้กำลังใจคุณ

7. การพักผ่อนทางจิตวิญญาณ (Spiritual Rest)

เป็นความสามารถในการเชื่อมโยงความผ่อนคลายทางกายและทางจิตใจเข้าด้วยกัน และรู้สึกได้ถึงตัวตน ความรัก การยอมรับในตัวเอง และเป้าหมายในชีวิต เรียกได้ว่าเป็นความสงบทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง หากใครต้องการให้จิตวิญญาณของตัวเองได้รับการพักผ่อนก็อาจลองหาเวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชนที่ตนเองสนใจให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพื่อค่อย ๆ บรรลุความต้องการส่วนลึกในใจ

เห็นไหมว่าการนอนหลับไม่เท่ากับการพักผ่อนเสมอไป หากแต่เราต้องรู้และแยกแยะให้ได้ว่า ความเหนื่อยหน่าย หมดแรงที่เกิดขึ้นนี้มีต้นตอมาจากอะไร และรู้จักการพักผ่อนให้ถูกวิธีเพื่อให้ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อนและฟื้นฟูกลับมาเป็นคุณคนใหม่ที่มีชีวิตชีวามากกว่าเดิม

สุดท้ายอย่าลืมว่าถ้าหมดแรง จงพักให้หายเหนื่อย!

_________________________

อ้างอิงจาก https://ideas.ted.com/the-7-types-of-rest-that-every-person-needs/?utm_content=2021-4-10&utm_campaign=social&utm_source=linkedin.com&utm_medium=social