Productive มีประสิทธิภาพจนเจ้านายอดปลื้มในตัวคุณไม่ได้
แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว หลายคนกลับได้แต่แพลนอยู่ในหัวและใช้เวลาไปกับงานจุกจิกที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากมาย แต่กับงานชิ้นใหญ่ที่มีความสำคัญยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลย จนกระทั่งเวลาที่ต้องส่งงานกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ จนไม่สามารถหาข้ออ้างในการบิดพลิ้วหรือเลื่อนเวลาออกไปได้อีก ถึงตอนนั้นล่ะที่ตัวคุณจะต้องนำศักยภาพเร้นลับในตัวออกมาใช้ นั่นก็คือ “พลังแห่งเดดไลน์” นั่นเอง
ความจริงแล้วการทำงานตอนใกล้ถึงกำหนดส่งอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป แต่ยังมีข้อดีที่คุณอาจเซอร์ไพรส์ได้จากการทำงานตอนไฟลนก้น ปั่นงานไม่ลืมหูลืมตา จนกลายเป็นอัจฉริยะข้ามคืน ซึ่งได้แก่...
ไม่มีอะไรที่จะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการแสนบรรเจิดได้ดีเท่าเดดไลน์ที่ใกล้เข้ามาอีกแล้ว ถ้าคุณเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวที่จะต้องทำโปรเจคให้สำเร็จ แทนที่จะเป็น 6 เดือน คุณจะทำยังไง? หลายครั้งที่ไอเดียที่ดีที่สุดเกิดมาจากเวลาที่บีบคั้นนี่แหละ
เมื่อคุณรู้สึกว่าเดดไลน์ใกล้เข้ามาแล้ว และเวลาในการทำงานก็เหลือน้อยเต็มที คุณก็จะหลีกเลี่ยงการใช้เวลาไปกับเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่จำเป็นต่องานหรือโปรเจค และลดความเอื่อยเฉื่อย การย้ำคิดย้ำทำ หันไปโฟกัสกับสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของงานมากขึ้น
เดดไลน์ยิ่งชิดเข้ามาเท่าไหร่ ไฟในตัวทีมงานก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นงานชิ้นใหญ่หรือโปรเจคที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน เดดไลน์นี่ล่ะที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ภายในทีมงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะคนในทีมรู้ว่าจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำงานภายใต้เป้าหมายเดียวกันเพื่อให้ทันเดดไลน์
คนเราจะผลักขีดจำกัดของตัวเองออกไปได้ก็ต่อเมื่อทำอะไรบางอย่างสำเร็จ หรือทำในสิ่งที่เคยคิดว่าตัวเองไม่มีทางทำได้ให้สำเร็จขึ้นมาจริง ๆ
การทำงานภายใต้ความกดดันของเดดไลน์ที่คุณอาจคิดว่า เวลาเหลือน้อยแค่นี้ไม่มีทางทำได้ทันแน่ ๆ แต่ผลสุดท้ายกลับทำได้เสร็จทันเวลา นั่นล่ะคือสิ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาอีกขั้นว่าคราวหน้าจะทำได้ดีกว่าเดิม เพราะคุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด
พอรู้ว่าเดดไลน์คือวันนี้ พรุ่งนี้ คุณก็จะเกิดไฟในการทำงานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การทำงานในเวลาที่จำกัดก็อาจทำให้ใครหลายคนสามารถมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานจนทำให้งานเสร็จออกมาได้เร็วกว่าที่คาด และอาจมีเวลาทบทวน แก้ไข ปรับปรุงให้ดีขึ้น เมื่องานออกมาไวกว่าที่คิดก็ยังช่วยลดความเครียดจากงานไปได้อีกเปลาะ ถอนหายใจโล่งอกได้แบบเต็มปอดอีกต่างหาก
เดดไลน์นี่แหละคือยาแรงสำหรับการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ เมื่อนำเดดไลน์มาผนวกกับพลังไฟลนก้น คุณอาจแปลกใจในตัวเองที่สามารถทำงานที่แสนเดือดให้สำเร็จออกมาได้ด้วยพลังและความมุ่งมั่นอันร้อนแรงภายใต้กรอบระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งนี่ก็คือ พลังแห่งเดดไลน์ที่ช่วยเสกงานอันน่าเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้จริง
งานด่วน งานเร่ง งานหนัก หรืองานไหน ๆ ก็อาจสำเร็จได้ชั่วข้ามคืนด้วยพลังแห่งเดดไลน์!
แม้การทำงานภายใต้ความกดดันของเดดไลน์จะมีข้อดีตามที่กล่าวมา แต่ทว่าจะใช้มุกนี้บ่อย ๆ ก็คงไม่ดีนัก เพราะหากงานไหนที่ต้องใช้ความประณีต ความละเอียดอ่อน หรือเน้นความถูกต้องตรงเป๊ะตอนส่งงาน หากคุณไม่ใช่นักปั่นงานขั้นเทพตัวจริงที่มั่นใจในฝีมือตัวเองจริง ๆ แล้วล่ะก็ การมานั่งทำงานแบบไฟลุกช่วงใกล้เดดไลน์ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจได้
ทางที่ดีจึงควรประเมินตัวเองให้ออก ว่างานไหนสามารถทำช่วงใกล้เดดไลน์ได้ งานไหนที่ทำให้เสร็จเสียแต่เนิ่น ๆ ไว้จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจหรือเสียดายภายหลังว่าตัวเราเองจัดการเวลาได้ไม่ดีพอ
_________________________
อ้างอิงจาก http://timemanagementninja.com/2011/10/the-power-of-tight-deadlines