career


ไม่ได้ทำงานอย่างที่ฝัน ฉันต้องทำอย่างไร


ตั้งแต่เด็กหลายคนมักโดนถามซ้ำ ๆ อยู่เสมอว่า “โตขึ้น หนูอยากเป็นอะไร?” หรือ“อาชีพในฝันคืออะไร?” ฝันของหลายคนอาจเปลี่ยนแปลงได้ไปตามกาลเวลา และช่วงอายุในขณะที่ถูกถาม ขณะที่อีกหลายคนยังคงยืนหยัดในฝันนั้นตั้งแต่เด็ก

แต่เมื่อมองความเป็นจริงแล้วก็พบว่า คนส่วนใหญ่มักไม่ได้ทำงานอย่างที่ฝันไว้ เพราะโลกความเป็นจริงกับความฝันนั้นต่างกัน แล้วเราควรทำอย่างไรดี ถ้าหากไม่ได้ทำงานอย่างที่ฝันไว้

1. ปรับมุมมองงานที่ฝัน
ลองปรับงานที่ฝันให้เป็นงานที่ถนัดและเป็นงานที่ชอบจริง ๆ หลายต่อหลายครั้ง งานที่เราคิดมาตลอดว่าเป็นงานอย่างที่ฝัน อาจไม่ใช่งานที่เราสามารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง

ดังนั้นเราควรปรับมุมมองงานที่ฝันของเราเสียใหม่ โดยการปรับให้เข้ากับความถนัดและความชอบของเราเช่น หากงานในฝันของเรา คืองานที่ทำให้สามารถรวยร้อยล้านได้ในเวลา 10 ปี! แต่พอมามองในโลกแห่งความเป็นจริง เราเป็นแค่พนักงานออฟฟิศ เงินเดือนหลักหมื่นต้น ๆ โอ้ว มันช่างต่างจากความฝันเสียนี่กระไร! ซึ่งความฝันแบบนี้มีแต่จะทำให้เรารู้สึกท้อถอย แต่ถ้าเราลองปรับมุมคิด เปลี่ยนมุมมองว่างานที่ทำอยู่ เป็นงานที่เรามีความถนัดและเชี่ยวชาญ ทำให้ได้ค้นคว้าหาข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เสมอ และมีโอกาสพัฒนาต่อยอดให้เราเปิดบริษัทเล็ก ๆ เป็นของตัวเองได้อีกในอนาคต นี่ก็จะเป็นงานในฝันที่อิงกับความเป็นจริงและสามารถทำได้จริงด้วย ขอแค่คุณพยายามและอดทนมากพอ

2. มองบันไดแห่งความฝันทีละขั้น
แม้ปัจจุบันเรายังไม่ได้ทำงานอย่างที่ฝัน แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นไปตลอดนะ ลองกลับมาย้อนมองสักนิดว่า “บันไดที่ก้าวไปสู่ความฝันในแต่ละขั้นเป็นอย่างไรบ้าง?” เราอาจจะพบว่าเรากำลังยืนอยู่บนบันไดขั้นใดขั้นหนึ่งแล้วก็ได้ เช่น คุณฝันมาตลอดว่าอยากเป็น ทหารแต่เรียนจบแล้วมาทำงานเป็นพนักงานบัญชีซึ่งคนละสายกับงานทหารเลย

มองเผิน ๆ ฝันนี้ไม่มีทางเป็นจริงได้ แต่ในความเป็นจริง งานสายทหาร มีหลายตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่งพนักงานบัญชีโดยมีการเปิดรับบุคคลภายนอกอยู่ตลอดเพียงเท่านี้เราก็จะมีกำลังใจ และเห็นภาพของบันไดแต่ละขั้นที่จะนำพาไปสู่ความฝันได้อย่างชัดเจน

3. มองหาข้อดีของงานที่ทำอยู่
จงมองหาข้อดีของงานที่สามารถนำพาเราไปสู่เป้าหมายในชีวิตได้ หากการทำงานอย่างที่ฝัน ยังเป็นเรื่องไกลตัวเราจนเกินไป ให้เราลองมองสิ่งใกล้ตัวหรืองานที่เรากำลังทำอยู่ ว่ามีข้อดีอย่างไรบ้าง ตรงกับเป้าหมายในชีวิตที่เราตั้งไว้หรือไม่ หากคำตอบคือใช่ ให้เรามุ่งมั่นและพัฒนาตนเองในสายงานนั้นต่อไป แต่หากคำตอบคือไม่ใช่ มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องออกไปค้นหาตนเองอีกครั้งว่าต้องการทำอะไรกันแน่

4. ให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ
คนจำนวนไม่น้อย ใช้ชีวิตและทำงานแบบซังกะตายเพียงเพราะรู้สึกว่า “นี่มันไม่ใช่งานที่ฝันไว้” แต่เดี๋ยวก่อน! ลองย้อนขึ้นไปอ่าน ข้อ 1-3 ใหม่ อีกครั้ง และให้กำลังใจตนเองเสมอว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ” เพราะเราแก้ไขอดีตไม่ได้ แม้เราจะรู้สึกเหมือนขึ้นรถไฟผิดขบวน แต่บางทีรถไฟขบวนนั้นก็อาจพาเราไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังสงสัยว่างานที่ฝันยังมีอยู่จริงไหม? ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกสักครั้งมองหาตำแหน่งงานที่ใช่ และสมัครเข้ามาร่วมงานกับเราที่ SCB สิค่ะ แล้วคุณจะพบว่า งานที่ดี ทำแล้วมีความสุข แถมได้พัฒนาตนเองอยู่ตลอด มีอยู่จริงที่นี่ >> https://careers.scb.co.th/th/jobs/