career


5 วิธีเพิ่มสมาธิ พิชิตงาน


เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเจอปัญหาไม่มีสมาธิกับงานที่ทำอยู่ ทำให้งานเสร็จช้า แถมยังทำให้เกิดความเครียดจากการทำงานมากขึ้นไปอีก อีกทั้งคงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถจดจ่ออยู่กับจอคอมพิวเตอร์ และกองเอกสารที่ต้องเคลียร์วันละหลาย ๆ ชั่วโมง

โดยที่ไม่หลุดโฟกัสเลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางแก้ปัญหาสมาธิหลุด ไม่ค่อยโฟกัสกับงานเสียทีเดียว เพราะจริง ๆ แล้วยังมีเทคนิคดี ๆ ที่ช่วยจัดการปัญหานี้ได้ ช่วยเพิ่มสมาธิ พิชิตงานให้เสร็จได้ไวขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย...

1. นั่งสมาธิกำหนดลมหายใจเข้า-ออก

การทำสมาธินั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ก่อนที่จะเริ่มทำอะไร เราจึงควรเริ่มจากการฝึกนั่งสมาธิง่าย ๆ ด้วยการหายใจเข้าและหายใจออกลึก ๆ เพื่อกำหนดลมหายใจของตัวเอง หายใจเข้าเสร็จแล้วนับ5วินาที หลังจากนั้นหายใจออกแล้วนับอีก5วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ1-2นาทีแล้วแต่ความสะดวก แค่นี้เราก็จะมีสมาธิและจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

2. สร้างบรรยากาศที่ทำงานด้วยเสียงเพลงหรือ ASMR

อ่านไม่ผิดแน่นอน! การเปิดเพลงสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในสถานที่ทำงานนั้นมีส่วนช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเสียง ASMR จากธรรมชาติ เช่น เสียงคลื่นทะเล เสียงป่า เสียงนกร้อง เพราะเสียงเหล่านี้ช่วยให้คลื่นสมองของเราสงบนิ่ง มีสมาธิมากขึ้นและยังทำให้เราสามารถจดจ่อกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

3. คาเฟอีนเจ้าเพื่อนยาก

อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เรามีสมาธิในการทำงานที่ง่ายมาก ๆ นั่นก็คือกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนจะช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัว กระปรี้กระเปร่าและช่วยแก้ง่วงได้ดี นอกจากนี้คาเฟอีนยังช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่อกับงาน ลดความไขว้เขว้ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้การบริโภคคาเฟอีนก็ควรจะอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกายในหนึ่งวัน (ประมาณ 400 มิลลิกรัมหรือกาแฟ 3-4 แก้ว) ไม่อย่างนั้นจากผลดีอาจกลายเป็นผลเสียต่อร่างกายแทน

4. พักวันละนิด สมองสดใส

คงเป็นไปได้ยากที่คนเราจะนั่งทำงาน จดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมฯ และกองเอกสารเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันโดยที่ไม่พักเลย เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสมาธิของเราแล้ว ยังส่งผลกับดวงตาของเราอีกด้วย ดังนั้นการพักเบรกจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มสมาธิของเราได้ โดยเราอาจจะลุกออกไปเดินยืดเส้นยืดสายสักครู่ เพื่อเป็นการผ่อนคลายตัวเองจากงานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการชาร์จพลังเพื่อให้ตอนเรากลับไปทำงานแล้วจะได้มีสมาธิจดจ่อกับงานที่เหลืออยู่ต่อได้

5. ดื่มน้ำบ่อย ๆ ช่วยรีเฟรชร่างกาย

น้ำเป็นอีกสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายของเรามาก ๆ ในบางครั้งเรามักจะจดจ่อกับการทำงานจนลืมดื่มน้ำ ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ทางที่ดีเราจึงควรดื่มน้ำ 1 แก้วทุก ๆ 1-2ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและสมองของเราสดชื่น ปลอดโปร่ง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสมาธิและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเราได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการเพิ่มสมาธิเพื่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่นั้นมีหลากหลายวิธีที่เริ่มทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเริ่มจากตัวเราเอง หรือการปรับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพียงแค่นี้เราก็สามารถหาตัวช่วยที่ทำให้มีสมาธิและเคลียร์งานได้อย่างเต็มที่ ไม่หลุดโฟกัสอีกต่อไป