วันนี้เราเลยขอนำเสนอการทำงานแบบ ‘Work Smart’ ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปดูกันเลยครับ
 

1. หยุดทำงานทีเดียวหลายอย่าง

 การใช้สมองทำงานหลาย ๆ งานพร้อมกันอาจไม่เวิร์คสำหรับทุกคนเสมอไป ทางที่ดีลองเลือกทำงานให้เสร็จทีละชิ้น โดยเลือกทำจากงานที่สำคัญที่สุดก่อน
 

2. ใช้กฏ 90/20

 ทำงานหนักจนสมองล้ารึเปล่า หยุดให้สมองได้พักบ้างก็ดีนะครับ ลองนำกฏ 90/20 ไปใช้ คือ ทำงานอย่างต่อเนื่อง 90 นาที จากนั้นพักสัก 20 นาที แล้วลงมือทำงานต่ออีก 90 นาที วนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
 

3. เริ่มสัปดาห์ด้วยงานที่ยากที่สุดก่อน

 ดูว่าสัปดาห์นี้ต้องทำงานอะไรบ้าง แล้วเอางานที่ยากที่สุดมาทำวันแรก ๆ ของสัปดาห์ วิธีการนี้จะทำให้คุณไม่ต้องเครียดกับ deadline ยิ่งถ้างานเสร็จไว ช่วงท้ายสัปดาห์ก็มีเวลาพักผ่อนสมองด้วยนะ
 

4. จับงานคล้ายกันไว้ด้วยกัน

 รวมงานที่คล้าย ๆ กันมาไว้ด้วยกันแล้วลงมือทำรวดเดียวให้เสร็จไปเลย! วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องสลับกลับไปทำสิ่งที่คล้ายเดิมใหม่ แต่วิธีนี้เหมาะสำหรับงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าครับ
 

5. จัดเวลาทำงานตามพลังของคุณ

 บางคนก็หัวแล่นตอนเช้า บางคนก็หัวแล่นตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ ผมแนะนำว่าให้นำงานยาก ๆ ที่ต้องใช้สมองหนัก ๆ มาทำช่วงที่คุณรู้สึกว่าหัวแล่น และมีแรงเหลือมากที่สุดของวันก่อน
 

6. ปิดการแจ้งเตือน

 ตอนทำงาน ให้ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ บนมือถือและคอมพิวเตอร์ไว้ก็ดีนะครับ เพราะบางทีการแจ้งเตือนเรื่องไม่สำคัญก็เด้งขึ้นมา ซึ่งอาจรบกวนสมาธิการทำงานได้
 

7. หันไปใช้ปากกากับกระดาษบ้าง

 แม้สมัยนี้สมาร์ทโฟน และแท็บเลตจะใช้จดบันทึกได้แทนสมุดโน๊ต แต่วิธีคลาสสิคอย่างการใช้ปากกากับกระดาษจดคอมเมนต์ก็ยังเวิร์คอยู่ ตอนเข้าประชุมเข้าประชุมครั้งหน้า ลองพักสายตาจากหน้าจอมือถือ หรือแท็บเลตแล้วจดโน๊ตลงสมุดแทนดูนะครับ
 

8. ตั้งเวลาล่วงหน้า

 การวางแผนจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญ อะไรที่สามารถตั้งเวลาให้ทำงานล่วงหน้าได้ก็ควรทำ เช่น ตั้งเวลาส่งอีเมลอัตโนมัติ เพื่อที่คุณจะได้ทำงานอย่างสบายใจ ไม่ต้องมาพะวงว่าถึงเวลาต้องส่งอีเมลอีกแล้ว
 

9. อยู่กับธรรมชาติ

 การอยู่กับธรรมชาติจะช่วยให้เราโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น และลดระดับความเครียดของเราลงได้ เมื่อไหร่ที่เริ่มเครียด ลองเปลี่ยนบรรยากาศออกไปทำงานในสวน หรือหาต้นไม้มาประดับไว้ที่ออฟฟิศก็ดีนะ
 

10. กำหนดวันเริ่มทำงาน

 หากคุณมีงานหลายงานที่ต้องทำ คงน่าปวดหัวไม่น้อยว่าจะทำงานไหนเมื่อไหร่ดี ทางที่ดีคุณควรวางแผนก่อนว่าจะทำงานไหนก่อน-หลัง กำหนดเวลาเริ่มทำงานของแต่ละงาน และเดดไลน์ที่ต้องทำให้เสร็จให้แน่ชัด

ทั้งหมดนี้คือแนวทางการทำงานแบบ Work Smart ที่ใครนำไปใช้รับรองว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ