career


Collaborative Skill : ทักษะทีมเวิร์คทำงานยังไงให้เวิร์ค


เพราะเราไม่ได้อยู่เพียงลำพังบนโลกใบนี้ ในโลกการทำงานก็เช่นกัน แม้คนรุ่นใหม่หลายคน จะชอบการทำงานแบบฟรีแลนซ์ หรือสร้างกิจการเล็ก ๆ ทำงานคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว หากต้องการขยายกิจการงานของเราให้เติบโตขึ้น เราก็จำเป็นต้องมีทีมงาน

ที่คอยช่วยสนับสนุน และขับเคลื่อนให้องค์กรเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

วันนี้เราเลยขออาสาพามาทำความรู้จักกับ ทักษะการทำงานเป็นทีม (Collaborative Skill) สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในองค์กร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ถ้ารู้จักทำงานเป็นทีมเวิร์ค รับรองว่าผลงานต้องออกมาเวิร์คสุด ๆ แน่นอน!
 

1. กล้ามีส่วนร่วมกับโปรเจค แม้ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง

บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก อย่าง Google ให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ project based เป็นอย่างมาก โดยได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากพนักงานทุกคนในทุก สัปดาห์ ทำให้มีโปรเจคใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากไอเดียของพนักงานมากมาย และยังทำให้ทุกคนมีแรงจูงใจที่จะทำโปรเจคนั้นให้สำเร็จอีกด้วย เพราะเป็นงานที่ทุกคน เป็นเจ้าของโปรเจคร่วมกัน
 

2. ลองแชร์ไอเดีย และแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมงาน 

ไม่มีใครรู้และเก่งไปเสียทุกเรื่องหรอกจริงไหม ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เราจึงต้องเรียนรู้อยู่เสมอ ดังนั้น อย่าปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า ถ้าคุณยังไม่รู้หรือไม่ถนัดในเรื่องไหน ลองกระซิบถามและเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานของคุณดูสิ เพราะทุกคนต่างก็มีดีอยู่ในตัวเองคนละแบบ
 

3. สื่อสารให้ตรงประเด็น ชัดเจน ไม่กำกวม 

แน่นอนว่าการทำงานร่วมกันย่อมเจอกับความคิดเห็นที่หลากหลาย จากหลายฝ่ายที่มีมุมมองแตกต่างกัน การสื่อสารออกมาให้ชัดเจน ตรงประเด็นในเรื่องที่กำลังถกกันอยู่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้ เราจึงแนะนำว่าก่อนที่คุณจะเข้าประชุมกับทีม ควรเตรียม ลิสต์ ข้อคิดเห็นและประเด็นที่ต้องการสื่อออกมาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจตามได้ง่าย

นอกจากนี้ การเลือกวิธีใน การสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น หากเป็นงานที่มีรายละเอียดมาก ควรนัด ประชุม เพื่อพูดคุยกันแบบเห็นหน้า ก็น่าจะดีกว่า การพิมพ์คุยแชทกัน หรือโทรคุยกันทาง โทรศัพท์อย่างเดียว เพราะอาจตกหล่นประเด็นสำคัญบางอย่าง หรือสื่อสารได้ไม่ชัดเจนพอ
 

4. เป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ตามที่ดี แล้วแต่สถานการณ์

เพราะความสามารถและความถนัดของแต่ละคนไม่เท่ากัน ในการทำงานเป็นทีม ถ้าโปรเจคนั้น เป็นงานที่ตรงกับทักษะและ ความเชี่ยวชาญของคุณ และคุณเองก็มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าสามารถทำมันได้ดี ก็อย่าปล่อยให้โอกาสที่จะได้เป็นผู้นำในเรื่องนั้นหลุดลอยไป จงกล้าอาสาขอเป็นแม่งานดูแลโปรเจคนั้น แต่ถ้าหากโปรเจคไหนที่คุณคิดว่ามีคนที่มีความสามารถ และเหมาะสมกับงานนั้นมากกว่าตัวเรา ก็ควรเปิดโอกาสให้บุคคลนั้นขึ้นมาเป็นผู้นำโปรเจค และพร้อมปรับตัวเองไปเป็นผู้ตามที่ดี เพื่อ สนับสนุนให้โปรเจคนั้นประสบความสำเร็จไปด้วยดี อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เราได้เรียนรู้จากผู้อื่นอีกด้วย
 

5. รู้จักขอความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ

การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การขอความช่วยเหลือจากใครสักคน คุณต้องประเมินก่อนว่า เขาคนนั้นสามารถช่วยเหลือเราได้จริง ๆ หรือ ไม่ เพราะมิเช่นนั้น ก็จะทำให้ทั้งเขาและเราเสียเวลาเปล่า จะกลายเป็นว่าไปขอความช่วยเหลือแบบผิดฝาผิดตัวไปเสียอย่างนั้น แต่ถ้าคุณรู้แน่ชัดแล้วว่า คน ๆ นี้ นี่แหละที่จะสามารถช่วยเราได้ คุณก็ต้องรู้จักออกปากขอความช่วยเหลือด้วยการ แสดงออกอย่างจริงใจ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจสถานการณ์ความจำเป็นของเรา และเต็มใจช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และหลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาแล้ว ก็อย่าลืมเอ่ยปาก ขอบคุณและกล่าวชื่นชมในน้ำใจของเขาคนนั้นด้วยนะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ แค่เคล็ดลับง่าย ๆ ไม่กี่ข้อ ถ้าลองนำไปปรับใช้ดู รับรองว่าทีมของคุณ ก็จะทำงานออกมาได้เวิร์คมาก ๆ เลยล่ะครับ