career

จึงไม่น่าแปลกใจที่เหล่า Data Scientist ผู้ทำงานกับ Big Data จะเห็นอนาคตก่อนใคร เพราะค้นพบ Insight บางอย่างที่เปรียบเหมือนกุญแจสำคัญที่สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ได้ รวมทั้งยังช่วยในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

เรียกได้ว่าถ้าอยากทำนายอนาคตได้แม่นราวจับวางก็ต้องผ่านกระบวนการค้นคว้า ทดลอง วิเคราะห์ Data ให้เป็น จึงจะคลี่คลายความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในกองข้อมูลมหาศาลนั้นได้

เช่นเดียวกับนักศึกษาที่เรียนมาทางสายวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ที่ต่างสงสัยว่าความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมานั้น จะสามารถนำไปทำประโยชน์อะไรได้บ้าง แล้วถ้าต้องเข้าไปทำงานเป็น Data Scientist จริง ๆ จะต้องเจอกับอะไร นั่นจึงเป็นเหตุผลให้รุจ อรุณพฤกษากุล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ภาสพล เสาวคนธ์ (ซูม) และศิวกร เฟื่องกวินสมบัติ (ไท) นักศึกษาจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ตัดสินใจเข้ามาฝึกงานที่ SCB

ต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ของเด็กฝึกงานทีม Data Analytics ที่ SCB ที่มาเล่าให้ฟังว่าตลอดเวลา 2 เดือนที่เข้ามาฝึกงานที่นี่ แต่ละคนเจออะไรกันมาบ้าง...
br

บรรยากาศการฝึกงานที่ SCB Data Analytics เป็นยังไงบ้าง

ด้วยความที่ตอนเข้ามาฝึกงานภาคฤดูร้อนปี 2020 อยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 พอดี รูปแบบการทำงานจึงมีทั้งการทำงานที่ออฟฟิศ และการทำงานจากบ้าน แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่ไหน น้อง ๆ เล่าให้ฟังว่าบรรยากาศในการทำงานทั้ง Friendly และ Flexible มาก ทำให้รู้สึกสบายใจ แถมยังได้กำลังใจและแรงผลักดันจากพี่ ๆ ในทีม Data Analytics ให้กล้าคิด กล้าทำในสิ่งต่าง ๆ

รุจได้เล่าถึง Culture ของ SCB Data Analytics team ว่า “เป็น culture ที่เป็นกันเองมากครับ พี่ ๆคุยกันสนุกมาก จนตอนนี้ก็สนิทกับพี่ ๆ mentor แทบจะทุกคน รวมถึงพี่ ๆ นอกทีมด้วยครับ พี่ ๆ ให้ความช่วยเหลืออย่างดีมากเลยครับ สามารถที่จะ reach out ไปหาได้ตลอดเวลา รวมถึงทุกครั้งก็ได้รับคำแนะนำ และคำตอบที่ดีกลับมาเสมอครับ”



เรียกได้ว่าการทำงานให้เวิร์ค ไม่เกี่ยวกับสถานที่แต่เป็นผู้คนต่างหาก!

นอกจากบรรยากาศการทำงานที่เป็นใจแล้ว เมื่อถามถึง Tools ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานว่าพอไหม ซูม บอกว่า “SCB Data ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการทำงาน และมี Computational resources ที่เยอะอย่างเพียงพอทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นครับ นอกจากนี้ยังมี Workshop จากองค์กรชั้นนำทางเทคโนโลยีหลายแห่ง มาให้ความรู้เป็นครั้งคราวด้วย”
br

ความท้าทายที่เจอตอนฝึกงาน

ในช่วงเริ่มต้นของการฝึกงานน้อง ๆ ได้เล่าให้ฟังว่าที่นี่มีโปรเจคให้เลือกหลากหลาย เมื่อแต่ละคนเลือกได้แล้วก็จะได้รับผิดชอบดูแลโปรเจคนั้นไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบแบบ end-to-end กันเลย ทำให้ไม่ได้ทำแค่เฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ data เท่านั้นแต่ได้เห็นภาพรวมของงานในสเกลใหญ่ด้วย

เมื่อถามถึงเนื้องานที่ได้เจอว่ายากง่ายแค่ไหน ไทได้เล่าถึงโปรเจคที่รับผิดชอบอยู่ให้ฟังว่า “ผมได้ร่วมทำโปรเจค Credit Scoring Model ซึ่งจะสร้าง Machine Learning Model ใหม่เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าธนาคารจะอนุมัติคำขอบัตรเครดิตของลูกค้าไหม ในการทำโปรเจคครั้งนี้ ผมได้มีโอกาสทำงานตั้งแต่การศึกษาหา features ที่น่าสนใจ เพื่อนำ features เหล่านั้นมาใช้สร้างโมเดล ช่วงแรกอาจจะมีตะกุกตะกักอยู่บ้างเพราะต้องทำความเข้าใจกับศัพท์เฉพาะและชื่อบริการทางธนาคาร ซึ่งทุกครั้งก่อนที่จะเลือก features นอกจากต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่เราเอามาใช้มันคืออะไรแล้วนั้น ต้องมีการจัดการข้อมูลที่ดีก่อนนำมาใช้เพื่อที่จะได้โมเดลที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีปัญหาเมื่อนำข้อมูลไปใช้จริง”

ส่วนรุจเสริมว่า “การทำงานที่ SCB เป็นการทำงานที่ Challenge มาก เนื่องจากการให้งาน หรือการตีโจทย์ของงาน เป็นงานที่ต้องมีความละเอียดรอบคอบ รวมถึงเป็นงานที่ต้องใส่ความคิดริเริ่ม ความคิดสร้างสรรค์บางส่วนของเรา เพื่อให้สามารถนำมาซึ่งแนวคิดแบบใหม่ ๆ ที่นำมาใช้กับตัวงานได้ครับ”
br

ชอบอะไรกับการฝึกงานที่นี่

ช่วงเวลา 2 เดือนที่ได้เข้ามาฝึกงานเป็นครั้งแรก ย่อมสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกันไป อาจมีทั้งประหลาดใจ สนุกสนานเฮฮา หรืออาจจะซึ้งกับมิตรภาพที่ได้เจอ สำหรับไทได้แชร์ให้ฟังว่า “ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนเลยที่ผมรู้สึกท้อแท้ อยากยอมแพ้ และอยากให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกงาน ในทางกลับกันผมได้มีช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นตลอดสองเดือนที่ได้ฝึกงานที่นี่ สนุกไปกับความรู้และเทคนิคใหม่ที่ได้เจอในแต่ละวัน ได้แก้ปัญหาที่ท้าทายจากการทำงานจริงซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน”

นอกจากนี้ซูมที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมโปรเจคที่ดูแลเกี่ยวกับการพัฒนาโมเดลมาคัดกรองลูกค้าให้มุมมองเพิ่มเติมว่า “ผมชอบที่ SCB เราตั้งใจคิดริเริ่มและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาพัฒนาทั้งระบบภายในและตัวผลิตภัณฑ์ของธนาคาร รวมทั้งสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาทดลองใช้ และปรับปรุงจนกว่าจะเจอ solution ที่ดีที่สุดต่อลูกค้าครับ”
br

Final say: ได้อะไรกลับไปจากการฝึกงานครั้งนี้

ซูม: “ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้สัมผัสงาน Data science โดยตรงเลย ทำให้กังวลอยู่บ้างว่าพอเข้ามาทำงานจริงจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ไหม พอเข้ามาแล้วพี่ ๆ ในทีมก็ดูแลอย่างดี ช่วยสอนและแนะนำ เปิดโอกาสให้ได้คิดและลงมือทำอย่างอิสระ ทำให้ได้ความรู้และประสบการณ์ออกมาเยอะมากจริง ๆ ครับ”

รุจ: “การทำงานที่นี่ทำให้ผมได้พบกับอุปสรรคในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่เคยเจอนอกจากการทำงานจริง ซึ่งก็ทำให้ผมได้เรียนรู้วิธี หรือแนวทางในการแก้ปัญหา และข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ครับ นอกจากนี้การทำงานที่นี่ได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ของผมอย่างก้าวกระโดด ได้ฝึกทั้ง soft skill รวมถึง technical skill ต่าง ๆ ซึ่งช่วยผลักดันให้ผมเป็นคนที่กล้าริเริ่ม กล้าที่จะลอง และคิดนอกกรอบมากขึ้นครับ”

ไท: “ประสบการณ์ครั้งนี้ช่วยเปิดโลกการทำงานผมเป็นอย่างมากและช่วยประกอบการตัดสินใจในการลงคอร์สในช่วงเวลาอีกสามปีที่เหลือในมหาลัย ซึ่งสำคัญอย่างมากสำหรับเด็กปีหนึ่งอย่างผมที่กำลังจะเลือกเส้นทางชีวิตในการเรียนต่อที่อเมริกา ผมตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ในวันนั้น ที่ตอบตกลงมาฝึกงานที่ SCB”

หวังว่าการฝึกงานครั้งนี้จะทำให้น้อง ๆ ได้รับประสบการณ์อันล้ำค่า รวมถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนพี่น้อง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำที่น่าจดจำ ตลอดจนมองเห็นทิศทางอนาคตของตัวเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้นด้วยสายตาของ Data Scientist ที่ข้อมูลมีผลต่อการตัดสินใจเสมอ